กรมการข้าวเผยผลตรวจดีเอ็นเอ“ข้าวเลี้ยงนก”ที่ชัยนาท-นครสวรรค์ เป็นสายพันธุ์จัสมิน เตือนชาวนาหลังแห่ซื้อไปปลูกกว่า2 หมื่นไร่ ระวังได้พันธุ์ข้าวปลอมปน ชี้ควรปลูกข้าวไทยมีหลากหลายพันธุ์ตอบโจทย์ผู้บริโภค จ่อเปิดแปลงใหญ่ปลูกข้าวนุ่ม 1 หมื่นไร่“พันธุ์กข 79” ขยายเมล็ดพันธุ์ -ทดลองตลาดก่อนกระจายพันธุ์ให้ชาวนาทั่วประเทศ
31 มี.ค.62 นายประสงค์ ประไพตระกูล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในกรณีมีกระแสชาวนาหันไปปลูกข้าวชนิดหนึ่ง มีลักษณะเมล็ดคล้ายกับข้าวหอมพวง ของไทย และข้าวจัสมินของเวียดนาม โดยที่หน้าถุงใส่ข้าวเขียนว่า “ข้าวเลี้ยงนก” ซึ่งได้รับรายงานว่ามีร้านจำหน่ายที่ จ.ชัยนาท และนครสวรรค์ มีชาวนานำไปปลูกกว่า 2หมื่นไร่ เพราะมีกล่าวอ้างต่อๆกันว่าได้ราคาดีและต้านทานโรค อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ยังให้ผลิตต่อไร่สูง
ทั้งนี้ นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมการข้าว นำข้าวดังกล่าวไปตรวจหาพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ พบว่า เป็นข้าวจัสมิน แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่ามาจากที่ใด ซึ่งตนต้องการเตือนชาวนาอย่าหลงเชื่อ เพราะอาจได้พันธุ์ที่มีการปลอมปนสายพันธุ์ ทำให้ผลผลิตและราคาไม่ได้ตามที่บอกต่อๆกัน
นอกจากนี้ กรมการข้าวได้พัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่หลากพันธุ์อย่างต่อเนื่องโดยมีพันธุ์ที่รับรองแล้วให้เลือกเพาะปลูก เช่น กข 21 , ปทุมธานี 1 , กข 43 , กข 47 , กข 53, กข 71 เป็นต้น ซึ่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องต้านทานโรค จึงได้พัฒนาข้าวพื้นนุ่ม ไม่ไวแสง อายุการเก็บเกี่ยว 118 วัน ต้านทานโรคแมลง เช่น พันธุ์ กข 79 มีผลผลิต 1 ตัน ถึง 1.2 ตันต่อไร่ รวมทั้งตลาดต่างประเทศกำลังมีความต้องการมาก ดังนั้นชาวนาควรให้ความสนใจข้าวไทยที่พัฒนาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และกระแสนิยมทั่วโลกรักสุขภาพ เช่น ข้าว กข 43 เป็นข้าวน้ำตาลต่ำ
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมกับ 5 สมาคม เช่น สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ถึงโครงการผลิตและตลาดข้าวนุ่มครบวงจร คาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 1 หมื่นไร่ ในการขยายเมล็ดพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันข้าวนุ่มในขณะนี้ที่ได้รับความสนใจมากทั้งในและต่างประเทศ โดยฟังจากสมาคมต่างๆ ผลสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากได้ ข้าวพันธุ์ กข 79 ซึ่งกรมการข้าวเพิ่งจะรับรองพันธุ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะนี้เมล็ดพันธุ์หลักยังมีจำนวนไม่มาก การที่จะให้มีพื้นที่ปลูกข้าว กข 79 จำนวนมาก และมีผลผลิตมากพอที่ตลาดจะมารองรับได้นั้น ต้องขอเวลา 1 ปี คาดว่าในปี 2563 จะขยายปริมาณเมล็ดพันธุ์ได้มากขึ้น และสถานการณ์ต่างๆ เห็นว่าข้าวนุ่มเป็นที่ต้องการตลาดในประเทศค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการเอง โรงสี ผู้ส่งออก และในส่วนของกลุ่มเกษตรกร ก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี
นายประสงค์ ระบุว่า กรมการข้าวจึงได้มาปรับแผน ในระหว่างปีนี้จะหาเมล็ดพันธุ์จำนวนหนึ่ง กข 79 ทดลองตลาดไปด้วย ปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อขับเคลื่อนแผนนโยบายวิสาหกิจประชารัฐของรมว.เกษตรฯ การตลาดนำการผลิต จะเร่งดำเนินการเพื่อสรุปพื้นที่เป้าหมายที่มีศักยภาพให้แน่ชัด นับว่าเป็นมิติใหม่ของกรมการข้าว จะหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีเป้าหมายแผนการผลิตที่ชัดเจนขึ้น และมีตลาดรองรับ ส่งออกไม่มีปัญหา ต่อจากนั้นชาวนาทุกคนได้ปลูกไม่มีการจำกัดอะไรทั้งสิ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี