ขณะนี้เริ่มเข้าสู่หน้าแล้งแล้ว หลายหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยกรมส่งเสริมการเกษตร มั่นใจลดผลกระทบต่อเกษตรกรจากการขาดแคลนน้ำในช่วงแล้งสำเร็จ เผยปรับพื้นที่ปลูกพืชหลากหลายแทนนาปรังแล้ว ซึ่ง นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่า จากการที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำมี 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย อุทัยธานี อุตรดิตถ์ สุพรรณบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู และมหาสารคาม หากวางแผนปลูกข้าวรอบสอง (นาปรัง) รวมพื้นที่จำนวน 151,552 ไร่ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชหลากหลายหรือทำกิจกรรมอื่นทดแทนการปลูกข้าว ซึ่งล่าสุดจากการลงสำรวจพื้นที่ดังกล่าว (13 มี.ค.2562) พบว่า เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นแทนการปลูกข้าวแล้ว ประมาณ 62,177 ไร่ คิดเป็น 41% ของพื้นที่ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 45,174 ไร่ ถั่วเขียว 12,740 ไร่ พืชผัก 2,925 ไร่ แตงโม 445 ไร่ ข้าวโพดฝักสด 420 ไร่ หญ้าเลี้ยงสัตว์ 203 ไร่ และงา 35 ไร่ และอีก 59% ของพื้นที่ เกษตรกรได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ จึงปรับเปลี่ยนไปทำปศุสัตว์ ค้าขายหรือทำอาชีพอื่น และปล่อยพื้นที่ว่างบางส่วนเพื่อเตรียมเข้าฤดูกาลผลิตใหม่
นอกจากนั้น ผลการติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกพืชฤดูแล้งล่าสุด พบว่า ปัจจุบันเกษตรกรปลูกข้าวรอบสองแล้ว 11.02 ล้านไร่ (98% ของแผนควบคุม) มีพื้นที่ปลูกข้าวเกินแผนควบคุม รวม 1.32 ล้านไร่ ใน 36 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 29 จังหวัด เป็นพื้นที่อยู่ทั้งในและนอกเขตชลประทาน 4 จังหวัด และพื้นที่นอกเขตชลประทานอีก 3 จังหวัด โดยในภาพรวมพื้นที่ปลูกข้าวรอบสองทั้งประเทศยังไม่เกินแผนควบคุม 11.21 ล้านไร่ ที่กำหนดไว้ แม้ว่าเกษตรกรจะปลูกข้าวรอบสอง เกินแผนควบคุมใน 36 จังหวัดดังกล่าว แต่ในจังหวัดอื่นของประเทศปลูกข้าวไม่เกินแผนที่กำหนด ประกอบกับในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ 11 จังหวัด เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยและทำอาชีพอื่นแล้ว
นางดาเรศร์ยังย้ำอีกว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ยังคงเดินหน้าสร้างการรับรู้และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยที่ได้ผลตอบแทนสูงทดแทนนาปรังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรเกิดความเข้าใจและก้าวผ่านความเสี่ยงในการปลูกข้าวรอบสองได้สำเร็จ ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจปลูกพืชใช้น้ำน้อยอื่นๆ ทดแทนการปลูกข้าวรอบสอง สามารถขอคำแนะนำและความรู้เพิ่มเกี่ยวกับพืชนั้นๆ ได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์ 0-2940-6059 หรือเฟซบุ๊ค ประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร
สัปดาห์ที่ผ่านมา นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้แถลงข่าว ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 1 ปี 2562 พบว่า ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 1
ขยายตัวได้ในระดับต่ำหรือค่อนข้างทรงตัว เป็นผลมาจากอัตราการขยายตัวของสาขาพืชที่ชะลอลงเป็นหลัก (มูลค่าการผลิตของสาขาพืชมีสัดส่วนสูงสุดในภาคเกษตร) อย่างไรก็ตาม การผลิตพืชเศรษฐกิจหลายชนิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และลำไย ยกเว้นอ้อยโรงงาน ซึ่งมีมูลค่าการผลิตสูงสุดในสาขาพืชในไตรมาสแรก กลับมีผลผลิตลดลงค่อนข้างมาก
ด้านการผลิตสินค้าปศุสัตว์โดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด รวมทั้งมีการจัดการฟาร์มที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ส่วนการผลิตสินค้าประมง ผลผลิตกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงเริ่มปรับตัวดีขึ้น และการทำประมงทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมีทิศทางเพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5 – 3.5 โดยทุกสาขาการผลิต ได้แก่ สาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ การดำเนินนโยบายด้านการเกษตรต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ปริมาณน้ำต้นทุนสะสมและแหล่งน้ำธรรมชาติในบางพื้นที่มีไม่เพียงพอต่อการผลิตทางการเกษตร และอาจส่งกระทบต่อการผลิตทางการเกษตรในระยะถัดไป แต่เลขาฯ สศก. บอกว่า เกษตรกรไม่ต้องกังวล เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว...
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี