2 เม.ย.62 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. , พ.ต.ต.ณัติรุจน์ วัฒนฉัตรรัตน์ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมคณะ แถลงจับกุม น.ส.ชญาธร ชัยกิตติธาดา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ซึ่งมีหมายจับติดตัวถึง 10 หมายจับ จับกุมได้ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 3 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่าถูกผู้ต้องหารายนี้ หลอกลวงให้นำเงินมาร่วมลงทุนเปิดโรงงานน้ำพริก และหลอกลวงให้ร่วมทำธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ หลอกเช่าซื้อรถยนต์แล้วนำไปจำนำ , ขาย-ฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ต่อมาภายหลังได้รับแจ้งความ ฝ่ายสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจนพบว่า เคยมีพฤติการณ์หลอกลวงเช่นนี้มาแล้วหลายพื้นที่ อาทิ จ.สมุทรปราการ จ.ราชบุรี จ.ปทุมธานี จนถูกแจ้งความและศาลได้ออกหมายจับไว้ ทั้งคดีฉ้อโกงประชาชน คดีความผิดเกี่ยวกับเช็ค จนสามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง แต่เมื่อประมาณปี 2559 ได้เปิดกิจการโรงงานผลิตน้ำพริกขึ้นมา และได้ชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุน แต่ภายหลังกลับประสบปัญหาขาดทุน ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ร่วมลงทุน จึงตัดสินใจหลบหนี จากนั้นก็นำรถยนต์ที่เช่ามาจากผู้เสียหายไปจำนำ รวมทั้งหลอกลวงขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยแอบอ้างกับผู้เสียหายว่าขายให้ได้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด จนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินมาให้ กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี