กฤษฏา สั่งด่วนเร่งสอบหาตัวเกษตรกร “มือเผาป่า” ทำไร่เลือนลอย จี้ทุกจังหวัดภาคเหนือ อีสาน ลงสำรวจทำบัญชีมือเผาทำไร่เลือนลอยทุกปี ขู่หากไม่หยุดเผา โดนจับยกพวง พร้อมระดมทุกหน่วยงานจัดให้ที่ดินเข้าทำกิน-หาอาชีพอื่นให้ ตัดตอนไฟป่า หมอกควัน แก้ต้นตอปัญหาเรื้อรังให้จบสิ้น

4 เม.ย.นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าสั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯและเกษตรจังหวัด ภาคเหนือและภาคอีสาน ทุกพื้นที่เร่งรัดปฏิบัติการป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืชทางการเกษตร ในพื้นที่ป่าประเภทต่างๆ เร่งรัดทำบัญชีสำรวจมือเผาทำไร่เลื่อนลอย ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯรายงานว่าทุกปีจะมีเกษตรกรบางรายลักลอบเข้าไปทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยในพื้นที่เขตป่าประเภทต่าง ๆโดยในฤดูแล้งตั้งแต่เดือน ก.พ.และ มี.ค.ของทุกปี จะมีการเผาวัชพืชเพื่อเตรียมแปลงทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยและจะเริ่มเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพ.ค. เป็นต้นไป จึงให้เกษตรจังหวัดมอบหมายเกษตรอำเภอ ไปประสาน นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน สำรวจและจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเกษตรกรที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และรายงานให้นายอำเภอในฐานะผอ.กองอำนวยการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าระดับอำเภอและผวจ.ในฐานะผู้อำนวยการระดับจังหวัดหรือผอ.กอ.ปภ.จว.ทราบเพื่อพิจารณามอบหมายหรือสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดชุดปฎิบัติการลงพื้นที่เพื่อไปประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรให้เลิกและหยุดการเผาดังกล่าว รวมทั้งใช้มาตรการทั้งการปกครองและการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควบคู่กันไปด้วย”นายกฤษฏา กล่าว

พร้อมกันนี้ให้เกษตรอำเภอไปร่วมกับชุดปฎิบัติการเพื่อรับฟังข้อเสนอในเรื่องที่ทำกินและการพัฒนาอาชีพจากกลุ่มเกษตรกรด้วย เพื่อนำข้อเสนอดังกล่าวมาประสานงานกับ ส.ป.ก.จัหวัด และหรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯจังหวัด(ทส.จ.)นำเข้าพิจารณาตามโครงการปฎิรูปดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)หรือโครงการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.)ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯต่อไป

รมว.เกษตรฯกล่าวว่าหากกลุ่มเกษตรกร ให้ช่วยส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มพูนรายได้ครอบครัว ก็ให้นำข้อเสนอหรือโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด(อ.พ.ก.)เพื่อพิจารณาสนับสนุนโครงการด้วยอย่างไรก็ตามถ้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหมอก ควันที่เกิดจากการเผาเศษซากวัชพืช เพื่อเตรียมการทำไร่เลือนลอยในพื้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้เนื่องจากเกินขีดความสามารถระดับพื้นที่ ให้ขอรับการสนับสนุนจากระดับจังหวัด และผู้ตรวจราชการทุกเขตลงติดตาม เพื่อให้มีประสิทธิภาพโดยรายงานถึงปลัดเกษตรฯ รมว.เกษตรฯด้วยหากมีปัญหาอุปสรรคจะแก้ไขโดยด่วน

นายกฤษฏา กล่าวว่าสำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจ.เชียงใหม่ได้ขึ้นบินปฏิบัติการเมื่อวานนี้(3เม.ย.)ทำให้มีฝนตกบริเวณจ.น่านและเชียงใหม่ โดยจ.น่านขึ้น 2 เที่ยวบิน ขั้นตอนก่อเมฆเที่ยวแรกขึ้นเวลา 10.00 น.  ขั้นโจมตีเที่ยวที่ 2 ขึ้นเวลา 14.00 น. ทำให้ฝนตกเวลา 14.45 น. บริเวณ อ. เมือง อ.บ้านหลวง จ.น่าน ปริมาณเล็กน้อย ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ขึ้น 2 เที่ยว ขั้นโจมตีเที่ยวแรก 14.00 น. ขั้นโจมตีเที่ยวที่ 2 ขึ้นเวลา 16.05 น. ทำให้มีฝนตกบริเวณเวลา 15.15 น. อ.สะเมิง อ.แม่ริม อ.แม่แตง  เวลา 16.53 น. อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปริมาณเล็กน้อย จากผลการทำฝนหลวง ทำให้ประชาชน ได้ส่งไลน์มาชื่นชมและยังให้กำลังใจผ่านเฟสบุคส์ฝนหลวงอย่างมากมายพร้อมกับสำนึกในพระอัจฉริยะ และสำนึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 ยิ่งทำให้พวกเราปลาบปลื้มใจพร้อมที่จะทุ่มเทแก้ไขปัญหาให้กับพสกนิกรของในหลวงหมดทุกข์ไปได้โดยเร็วที่สุด”นายกฤษฏา กล่าว