ฮอตสปอต9จว.เหนือลด
บิ๊กตู่เริ่มพอใจ
2วันเหลือแค่200กว่าจุด
เกษตรฯสั่งล่ามือเผาป่า
แจ้งเบาะแสรางวัล1หมื่น
ลดฮวบ! มหาดไทยรายงาน 9 จว.เหนือ จุดความร้อนลดลงจาก 1.9 พันจุด เหลือแค่ 200 กว่าจุด นายกฯพอใจสั่งเดินหน้าต่อ เล็งจับมือเพื่อนบ้านสร้างต้นแบบแก้ปัญหายั่งยืน ด้าน “กฤษฎา” สั่งเกษตรจว.เหนือ-อีสาน สำรวจมือเผาป่าทำไร่เลื่อนลอยขึ้นบัญชี พร้อมบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด ขณะที่พะเยา ฝุ่นยังฟุ้ง ไฟป่าเกิดต่อเนื่องหลายจุด
จุดความร้อนโผล่ฝั่งเมียนมาตรงข้ามจ.ตาก จนท.ประสานเฝ้าระวัง
เมื่อวันที่ 4 เมษายน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า จังหวัดภาคเหนือที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าปรับแผนแก้ปัญหาตามที่นายกฯสั่งการไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา โดยพบว่าการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดปริมาณจุดความร้อนหรือ Hot spot ใน 9 จังหวัดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 1,969 จุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน เหลือ 275 จุดในวันนี้
นายกฯพอใจฮอตสปอตลดลง
อย่างไรก็ตาม นายกฯเน้นย้ำว่า แม้จุดความร้อนจะลดลงบ้างแล้ว แต่ยังต้องพยายามต่อไป พร้อมกันนี้ขอขอบคุณกองทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและอาสาสมัครจิตอาสาทุกคนที่ร่วมกันทำงาน เพื่อลดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ในส่วนประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยเร่งประสานงานใกล้ชิด ถ้าทำสำเร็จจะเป็นต้นแบบแก้ปัญหาของอาเซียนอย่างยั่งยืนต่อไป
พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินงานนั้น กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ติดตามข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม ให้เห็นจุดความร้อน และกำหนดเขตพื้นที่เสี่ยง 3 ลักษณะคือ พื้นที่เมือง พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ป่า แบ่งเป็น 185 ตำบล 9 จังหวัด โดยแต่ละอำเภอสนธิกำลังทุกฝ่ายทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ออกปฏิบัติการดับไฟป่า ขณะเดียวกันทุกจังหวัดประกาศห้ามเข้าพื้นที่ป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
กฤษฎาสั่งขึ้นบัญชีดำเผาป่า
ด้านนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เกษตรจังหวัด ภาคเหนือและภาคอีสาน ทุกพื้นที่เร่งปฏิบัติการป้องกันเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืชทางการเกษตรในพื้นที่ป่าประเภทต่างๆ โดยเร่งทำบัญชีสำรวจมือเผาทำไร่เลื่อนลอย ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯรายงานว่าทุกปีมีเกษตรกรบางรายลักลอบเข้าไปทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยในพื้นที่ป่า โดยฤดูแล้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมของทุกปี จะมีการเผาวัชพืชเพื่อเตรียมแปลงทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยและจะเริ่มเพาะปลูกช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จึงให้เกษตรจังหวัดประสาน นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน สำรวจจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเกษตรกรที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และรายงานให้นายอำเภอในฐานะผอ.กองอำนวยการป้องกันแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่าระดับอำเภอและผวจ.ในฐานะผู้อำนวยการระดับจังหวัดหรือผอ.กอ.ปภ.จว.ทราบ เพื่อจัดชุดปฎิบัติการลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรดังกล่าวให้เลิกและหยุดเผา รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาเศษซากวัชพืช เพื่อทำไร่เลือนลอยในพื้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ เพราะเกินขีดความสามารถระดับพื้นที่ ให้แจ้งระดับจังหวัด ก่อนรายงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ รมว.เกษตรพิจารณาแก้ไขด่วน
พะเยาสำลักฝุ่นไฟป่าโผล่อื้อ
สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง อย่างที่จ.พะเยา ยังคงไม่คลี่คลาย โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ยังเกินมาตรฐาน โดยช่วงเช้ามีอากาศหนาวเย็น หมอกปกคลุมไปทั่วจังหวัด และจากผลตรวจวัดคุณภาพอากาศในต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่า 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และ PM 10 อยู่ที่ 103 มคก./ลบ.ม. และคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 187 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ให้1หมื่นแจ้งเบาะแสมือเผา
ขณะเดียวกันยังเกิดไฟป่าหลายจุด เช่น ในเขตป่าอนุรักษ์ ต.บ้านสาง อ.เมือง ที่อ.เชียงคำ อ.ภูซาง
และติดตามจุดเกิดความร้อน 3 จุด ซึ่งบางจุดไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะเป็นหน้าผาสูงชัน ส่วนผู้ใหญ่บ้านน้ำยวนพัฒนา หมู่ที่ 19 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จัดชุดเฝ้าระวังไฟป่าไว้ตลอด 24 ชั่วโมง. จากไฟป่าดังกล่าวส่งผลให้เกิดหมอกควันต่อเนื่อง ทหารมณฑลทหารบกที่ 34 ร่วมกับองค์กรส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืม กำนันผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมดับไฟปา รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้ปะทุขึ้นอีก พร้อมบังคับใช้กฎหมายฐานความผิดหมอกควันและไฟป่าอย่างเด็ดขาด พร้อมตั้งรางวัล 10,000 บาทให้ผู้พบเห็นคนลักลอบจุดไฟเผาป่านำไปสู่การจับกุมได้
จุดความร้อนโผล่พม่าเฝ้าระวัง
นายประทีป โพธิ์เที้ยม นายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก สั่งการให้ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคงประสานกองร้อยทหารพรานที่ 3506 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.1 อุทยานแห่งชาติแม่เมย และกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ท่าสองยางที่ 4 นำเครื่องมือเข้าตรวจสอบจุดความร้อน หรือฮอตสปอท เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เมย พบจุดความร้อนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้ามบ้านแม่สลิดน้อย ม.3 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง นอกจากนี้ ยังตรวจสอบชายแดนฝั่งไทยไม่พบแนวโน้มเกิดจุดความร้อน นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือทหารฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟป่า หรือการเผา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ชายแดน อีกทั้ง จังหวัดและประเทศเพื่อนบ้านมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อมาตลอด เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี