“กษ.เดินหน้า Set Zero ผ่านมโรงเรียนทั้งระบบ จัดโควตาใหม่ 5กลุ่มภูมิภาค ลดผลประโยชน์ทับซ้อน ยันบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล เร่งแผนให้ทันก่อนเปิดเทอมนี้ เผยปี61ผู้ประกอบการผ่านคุณสมบัติ64ราย แบ่งเค็ก 1.4หมื่นล้านบาท”
5 เม.ย.62 นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทบทวนกลไกในการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนทั้งระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ นั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงได้เร่งประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 1/2562
โดยมีการพิจารณา 3 ประเด็นหลัก คือ 1.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องตามแนวทางการปฏิรูประบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประกอบด้วย 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน คณะอนุกรรมการรณรงค์การบริโภคนมในสถาบันการศึกษาทุกระดับ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนทุกระดับกลุ่มพื้นที่ 2.จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับใช้ในการบริหารจัดการและภารกิจของคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนในแต่ละปี เพื่อนำเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยที่ประชุมเห็นชอบกรอบวงเงินในปี 2562 เดือนเมษายน - กันยายน ประมาณ 103,762,500 บาท และในปี 2563 ประมาณ 391,573,800 บาท และ 3.แผนการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2562 โดยวางแผนการดำเนินงานอย่างเร่งด่วนเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการฯ ประจำปีการศึกษา 2562
"ระบบและกลไกใหม่นี้เน้นการกระจายอำนาจการจัดสรรโควต้าลงกลุ่มพื้นที่ภูมิภาค5กลุ่มเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดความเป็นธรรมในการบริหารจัดการนมโรงเรียน โดยบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และลดปัญหาการมีผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ องค์กรเกษตร สหกรณ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ตลอดจนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง อาจยังไม่เข้าใจและกังวล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมปศุสัตว์ได้" นางสาวดุจเดือน กล่าว
ด้าน นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า มาตรการที่กรมปศุสัตว์จะดำเนินการต่อจากนี้คือ ดำเนินการจัดประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนประจำปี 2562 และจัดการประชุมชี้แจงหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ ได้แก่ ปศุสัตว์เขต ปศุสัตว์จังหวัด ทั่วประเทศในวันพุธที่ 10 เมษายน 2562 เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิรูปโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนและการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน และจะจัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนกลุ่มพื้นที่(5กลุ่ม) โดยมีปศุสัตว์จังหวัดเป็นอนุกรรมการและเลขานุการแต่ละกลุ่มเพื่อดำเนินการจัดสรรสิทธิ์และพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมทันวันเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการจัดสรรสิทธิแผนเดิม(โควตา)การจำหน่ายนมโรงเรียนตามที่คณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียน เสนอ โดยในภาคเรียนที่ 2/2561 ที่ผ่านมา มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 64 ราย 71 โรงงาน เป็นรายที่เคยร่วมโครงการในภาคเรียนที่ผ่านมา 59 ราย รายที่เคยเข้าโครงการในปีก่อนๆ แต่ไม่ได้เข้าในภารเรียนที่ 1/2561 จำนวน 4 ราย และมี 1 ราย ซึ่งเป็นรายใหม่ รวมปริมาณน้ำนมที่ผู้ประกอบการยื่นขอเข้าร่วมโครงการ 1,317.60 ตันต่อวัน จึงลดทอนสิทธิให้เหลือตามปริมาณซึ่งคณะอนุกรรมการกำหนดไว้ที่ 1,170 ตันต่อวัน
ในส่วนการจัดสรรพื้นที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียนซึ่งแบ่งเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิน้อยกว่า 50,000 กล่อง/ถุงต่อวัน ซึ่งมีสถานที่ผลิตในจังหวัดใดจะได้จำหน่ายในพื้นที่นั้นหรือพื้นที่ใกล้เคียง หากมีผู้ประกอบการในพื้นที่มากกว่า 1 ราย ให้จัดสรรแก่สหกรณ์ขนาดเล็ก โครงการพระราชดำริ สถาบันการศึกษา หรือผู้ประกอบการเอกชนขนาดเล็กก่อน ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิจำหน่ายมากกว่า 50,000 กล่อง/ถุงต่อวัน จะได้รับพิจารณาเป็นลำดับถัดไป ส่วนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผู้ประกอบการในสถานที่น้อย หากมีสิทธิเหลือ ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาจัดสรรแก่ผู้ประกอบการภาคอื่นได้ โดยหน่วยงานที่จัดซื้อนมโรงเรียนรัฐบาลและเทศบาล คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนโรงเรียนเอกชนดูแลโดยกระทรวงศึกษาธิการ รวมงบปีละ1.4หมื่นล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี