อธิบดีกรมการปกครอง และ ผวจ.เพชรบุรี ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำอภิเษก ณ ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดท่าไชยศิริ ต.สมอพลือ อ.บ้านลาด จากแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน เบญจสุทธิคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สำคัญทั้ง 5 ของไทย ส่วนที่ราชบุรีประกอบพิธีที่สระโกสินารายณ์ กาญจนบุรีที่บริเวณสามสบ ขณะที่ฉะเชิงเทราที่บริเวณปากน้ำโจ้โล้
เมื่อเวลา 11.52 น.วันนี้ (6 เม.ย.) ที่บริเวณท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดท่าไชยศิริ ต.สมอพลือ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นเวลาฤกษ์พิธีพลีกรรมตักน้ำ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในพิธีตักน้ำสรงมุรธาภิเษก (น้ำสรงรดพระเศียรในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก) และนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำอภิเษก จากแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน เบญจสุทธิคงคา (แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สำคัญทั้ง 5 ของไทยประกอบด้วย แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำเพชรบุรี, แม่น้ำราชบุรี, แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำบางปะกง) ณ แม่น้ำเพชรบุรี บริเวณท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ ต.สมอพลือ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นเพื่อนำไปใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีพระครูสุริยาเทเวศน์พราหมณ์ จากราชสำนัก ดำเนินการในส่วนพิธีพราหมณ์ ใส่ขันสาครจำนวน 2 ใบ จากนั้นอัญเชิญขันน้ำสาคร จำนวน 2 ใบ จากนั้น สู่ขบวนรถเคลื่อนขบวนรถไปยังพระวิหารวัดมหาธาตุวรวิหาร ต.คลองกระแชง อ.เมืองเพชรบุรี
ส่วนที่จังหวัดราชบุรี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ สระโกสินารายณ์ ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็น 1 ในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 107 แห่งที่ได้เชิญมาประกอบในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีเหลืองเดินทางมาร่วมพิธีอยู่ที่บริเวณรอบสระโกสินารายณ์เป็นจำนวนมาก
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดได้อันเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการพลีกรรมขึ้นขบวนรถบุษบกเพื่ออันเชิญมาที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรี เพื่อเตรียมประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกในวันที่ 8 เมษายนนี้
ที่บริเวณสามสบ ซึ่งเป็นสถานที่กำหนดให้เป็นสถานที่ตักน้ำศักดิสิทธิ์ของจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 นายอนันต์ นาคนิยม ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธีสำคัญครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง
เวลา 11.52 น. นายจีระเกียรติ์ ภูมิสวัสดิ์ ได้ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ห่อด้วยผ้าขาว ก่อนเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์มายังท่าแพอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี โดยมีขบวนเรือของผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม 68 ลำ ได้ร่วมริ้วขบวนเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ จิตอาสาพระราชทาน และกลุ่มพลังมวลชนได้เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นจากเรือผ่านชุมชนบ้านวังกะ หมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ข้ามสะพานไม้อุตตะมานุสรณ์
โดยมีประชาชนชาวอำเภสังขละบุรี ที่พร้อมใจกันแต่งกายในชุดพื้นเมือง และสวมใส่เสื้อสีเหลือง รอรับขบวนเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ อยู่เต็มสะพานไม้ ต่อเนื่องมายังสะพานแดง ก่อนขึ้นรถยนต์ที่ได้จัดเตรียมเพื่อเชิญน้ำ เดินทางกลับไปประกอบพิธี ณ.พระอุโบสถ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พรารามหลวง หรือวัดใต้ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งจะเป็นสถานที่ ประกอบพิธีทางสงฆ์ ประกาศชุมนุมเทวดาในการพิธีทำน้ำอภิเษกต่อไป
ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายประสงค์ คงเคารพธรรม นายวรพจน์ แววสิงห์งาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณปากน้ำโจ้โล้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และอัญเชิญขันน้ำสาครและที่ตักน้ำเข้าไปเก็บรักษาไว้ ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีทำน้ำอภิเษกของจังหวัดฉะเชิงเทรา
สำหรับบริเวณปากน้ำโจ้โล้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจุดบรรจบของคลองท่าลาดและแม่น้ำบางปะกง เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แหล่งเดียวของจังหวัด ตามพระราชพงศาวดารฉบับราชหัตถเลขาสามารถกล่าวโดยสรุปว่า หลังจากที่พระยาวชิรปราการ หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาและหยุดประทับที่หนองน้ำ ได้ทรงรบกับทัพพม่าที่ติดตามมาจนทัพพม่าแตกพ่าย บริเวณที่พระยาวชิรปราการ หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสู้รบจนได้ชัยชนะ คือบริเวณปากน้ำโจ้โล้ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระสถูปเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ แต่ได้ถูกกระแสน้ำไหลกัดเซาะพังทลายลงแม่น้ำ ตั้งแต่ปี 2491 จึงมีการสร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นใหม่บริเวณเดิม แล้วเสร็จในปี 2542
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี