"กฤษฎา"สั่งฝนหลวงสแตนด์บาย24ชม. ชี้ความชื้นเกิน50-60%ขึ้นบินทำฝนช่วยภัยแล้ง เติมน้ำการเกษตร ยันหน้าแล้งเหลือกว่า50วัน มีน้ำให้ทุกพื้นที่ กำชับกรมชลฯ-กปภ.เร่งลำเลียงน้ำดิบผลิตประปา ส่งถึงปชช.ทันท่วงที เน้นทุกจังหวัดภาคเหนือ-อีสาน ต้องหาแหล่งน้ำทั้งใกล้และไกลมาป้อนประปาสาขาทุกชุมชนอย่างทั่วถึง
7 เม.ย.62 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการบรรเทาภัยแล้ง และปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองกระทบสุขภาพประชาชน ในภาคเหนือและภาคอีสาน ว่า ขณะนี้สั่ง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้หน่วยฝนหลวงทั่วประเทศ สแตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าสภาพอากาศอำนวย คือ มีความชื้น 50 - 60% ก็ขึ้นทำทันที ขณะนี้เปิดอยู่ 11 หน่วยปฎิบัติ 9 ฐานบิน ครอบคลุมทั้งประเทศเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพิ่มน้ำการเกษตร แหล่งน้ำ และเขื่อนต่างๆ ทั้งนี้ ยังมีหน่วยบินของกองทัพอากาศ (ทอ.) พร้อมสนับสนุนด้วย
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ได้สั่งการด่วนให้อธิบดีกรมชลประทาน แจ้งสำนักชลประทานจังหวัด ประสานกับผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค สาขาจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมกันแก้ไขปัญหาทุกพื้นที่เสี่ยงอย่างเร่งด่วน โดยเน้นทุกจังหวัดภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งได้จัดทำบัญชีแหล่งน้ำไว้แล้ว ซึ่งบางพื้นที่แหล่งน้ำอยู่ไกล โดยให้ชลประทานจังหวัด และการประปาภูมิภาค เข้าดำเนินการชักน้ำ ลำเลียงน้ำไปให้ถึงประชาชนอย่างทันท่วงที
นายกฤษฎา กล่าวว่า เหลือเวลาช่วงหน้าแล้งกว่า 50 วัน จากการคาดการณ์กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าฤดูฝนมาสัปดาห์ที่ 2 เดือน พ.ค.ยืนยันว่าจัดสรรน้ำให้ทุกพื้นที่ผ่านพ้นไปได้ และสำรองไว้หากฝนทิ้งช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค.ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด การประปาส่วนภูมิภาค บูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน พร้อมหน่วยทหาร จัดหาน้ำให้ประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ ขอนแก่น มหาสารคาม และพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยภูมิ กาญจนบุรี ราชบุรี นครราชสีมา และเลย พื้นที่เฝ้าระวัง 17 จังหวัด เช่น พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ นครพนม บุรีรัมย์ เป็นต้น
รวมทั้งดูแลพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเกินแผนจัดสรรน้ำ 1.18 ล้านไร่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นในเขตชลประทาน 32 จังหวัด และนอกเขตชลประทาน 7 จังหวัด ให้เก็บเกี่ยวได้ แต่ขอให้หยุดทำนาปรังต่อเนื่อง โดยทุกหน่วยงานลงทำความเข้าใจเกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย รัฐมีมาตรการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไร่ละ 2 พันบาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชผัก พืชไร่ เพื่อสำรองน้ำไว้ฤดูถัดไป
ด้าน นายสุรสีห์ กล่าวว่า ผลปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ช่วยพื้นที่ขาดน้ำ แก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมีผลกระทบสุขภาพประชาชน โดยเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ตรวจสภาพอากาศพบว่าบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความชื้นในอากาศมากกว่าร้อยละ 60 จึงได้สั่งการให้หน่วยปฎิบัติการฝนหลวงขึ้นทำการบิน โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติขึ้น 3 เที่ยวบิน ทำให้มีฝนตกบริเวณ จ.เชียงใหม่
ดังนี้ ขั้นเสริมการก่อตัวของเมฆเที่ยวแรกขึ้นเวลา 13.30 น.หลังปฏิบัติการพบว่า เมฆมีการพัฒนาตัวตกเป็นฝนเวลา 16.00 น.บริเวณ อ.อมก๋อย อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ปริมาณเล็กน้อย 4.0 มม. (อมก๋อย) โจมตีเที่ยวที่ 2 ขึ้นเวลา 15.20 น.ทำให้ฝนตกเวลา 15.55 น.บริเวณ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ปริมาณเล็กน้อย พร้อมโจมตีเที่ยวที่ 3 ขึ้นเวลา 16.35 น.เมื่อไปถึงบริเวณพื้นที่เป้าหมาย (อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่) พบว่ากลุ่มเมฆบริเวณดังกล่าวตกเป็นฝนและเริ่มสลายตัว ยกฐานสูงขึ้น จึงตัดสินใจปฏิบัติการในขั้นตอนเสริมการก่อตัวของเมฆพื้นที่ข้างเคียงบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ อ.ฮอด - ทิศเหนือ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ จากการติดตามเริ่มพบกลุ่มฝนตกบริเวณ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 18.48 น.และมีทิศทางการเคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่ จ.ลำพูน รวมทั้งหน่วยปฏิบัติการฯ ฝนหลวง จ.จันทบุรี ได้ขึ้นบินฝน ช่วยพื้นที่เกษตร และเกาะสีชัง ขาดน้ำอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ภาคกลาง หน่วยปฏิบัติการฯ ฝนหลวง จ.ลพบุรี จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ภาคใต้ หน่วยปฏิบัติการฯ ฝนหลวงหัวหิน บินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี