เชียงรายจ่ายหัว1หมื่น
แจ้งจับมือลอบเผา
ส่งจนท.นอนเฝ้าป่า
คุมเข้มก่อเหตุซ้ำ
จิสด้ารายงานผลตรวจจับจุดความร้อน 9 จว.เหนือ ยังพบ 63 จุด เชียงรายมากสุด น่าเป็นห่วงคือ จุดความร้อนในเมียนมา-ลาวทำหมอกควันข้ามพรมแดนซ้ำเติมไทย ขณะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง อ.เวียงป่าเป้า ลงพื้นที่คุมเข้ม ห้ามเผาป่า ต้องนอนเฝ้า พร้อมแจ้งชาวบ้าน ใครให้เบาะแส หรือนำจับมือเผาได้ รับรางวัลนำจับ คดีละ 1 หมื่น
เมื่อวันที่ 10 เมษายน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า รายงานผลตรวจจับจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ จากการวิเคราะห์ด้วยระบบภูมิสารสนเทศ และภาพถ่ายดาวเทียมระบบ MODIS (โมดิส) แสดงจุดความร้อนทั่วพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 9 จังหวัดในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 8 เมษายน รวม 63จุด โดย จ.เชียงรายเกิดจุดความร้อนมากที่สุด 21จุด รองลงมาจ.น่าน 12 จุด และแม่ฮ่องสอน 11 จุด
ส่วนจุดความร้อนที่ตรวจพบในประเทศเมียนมาร์ ยังคงมีจุดความร้อนมากถึง 645 จุด ขณะที่ลาวพบ 241 จุด เวียดนาม 70 จุด และกัมพูชา 25 จุด ส่วนใหญ่จุดความร้อนที่เกิดขึ้นในลาวและเมียนมาร์ จะเกิดในพื้นที่ใกล้ชายแดนภาคเหนือของไทย ส่งกระทบต่อพื้นที่จังหวัดภาคเหนือจากหมอกควันข้ามพรมแดน โดยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่ายังต้องเฝ้าระวังในจุดเสี่ยงป้องกันเหตุไฟป่าในจุดที่ยังมีพืชใบไม้แห้งเป็นเชื้อเพลิงอยู่
ทั้งนี้ เมื่อรวมจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 9 เมษายน มีจุดความร้อนสะสมกว่า 6,792 จุด ส่วนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 54-141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) วัดได้สูงสุดที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย 141 มคก./ลบ.ม. รองลงมาอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 108 มคก./ลบ.ม. โดยคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึงมีผลต่อสุขภาพ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก มีแนวโน้มค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ไฟป่าหลายพื้นที่ จ.เชียงรายพบปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอากาศ 149 มคก./ลบ.ม. และ PM 10 ในอากาศ 187 มคก./ลบ.ม.ที่ อ.แม่สาย ซึ่งถือว่าเบาบางแต่ยังคงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสนธิกำลังออกลาดตระเวนป้องกันและดับไฟป่ารวมทั้งจับกุมผู้ลักลอบเผาไปได้แล้วหลายราย
ที่ อ.เวียงป่าเป้า นายอนันต์ สมุทรารินทร์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า พร้อม ปลัดอำเภอ สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เวียง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครองออกลาดตระเวนป้องกันไฟป่า โดยพักนอนค้างแรมในหมู่บ้านแม่ปูนหลวง หมู่ 8 ต.เวียง ซึ่งเกิดปัญหาไฟป่าและจุดความร้อนมากที่สุดใน อ.เวียงป่าเป้า เพื่อขอความร่วมมือราษฎรทุกหลังคาเรือนช่วยสอดส่องดูแลอย่าให้มีการจุดไฟเผาป่า โดยแจ้งกับชาวบ้านว่า ถ้าพบคนเผาทางจังหวัดจะมอบรางวัลนำจับให้คดีละ 10,000 บาท
ด้าน นายสมกิจ เกศนาอคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย สั่งระดมกำลังในพื้นที่ชุดปฏิบัติการตระเวนและป้องกันไฟป่าและหมอกควัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง จิตอาสา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดับไฟป่าในพื้นที่บ้านใหม่น้ำเย็น หมู่ 9 ต.ดอยลาน 6 จุด หลังเกิดลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้าจนควบคุมเพลิงได้แต่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไหม้ขึ้นอีก
ที่ อ.พาน นางภัทราวดี ปัญญา นายอำเภอพาน แจ้งว่าเกิดไฟไหม้ที่หมู่ 11 ต.แม่อ้อ อ.พาน ซึ่งชุดปฏิบัติการดับไฟป่าและชาวบ้านพยายามเข้าดับไฟ แต่ทำได้ยากเพราะพื้นที่เป็นหุบเขาและหน้าผาสูงชัน รวมทั้งมีลมตีกลับใส่เจ้าหน้าที่ทำให้ไม่ได้ผล ไฟจึงลามไปยังทิศตะวันตกและทิศใต้พื้นที่ป่าเสียหายประมาณ 500 ไร่ เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงสร้างแนวกันไฟไว้ คาดว่าอาจใช้เวลา 2 วันจึงจะดับไฟได้
ขณะที่พื้นที่อำเภออื่น เจ้าหน้าที่ ยังคงเฝ้าระวังต่อเนื่องโดยเฉพาะการลักลอบเผาเนื่องจากผู้ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน บางคนให้เหตุผลว่าต้องการทำการเกษตรด้วยการปลูกพืชไร่ต่างๆ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี