นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) นำโดยนายยศวัศจ์ ชัยวัฒนสิริกุล ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย นำมวลชนมาติดตามข้อเรียกร้องที่แจ้งไว้ที่กระทรวงเกษตรฯ 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1) ขอให้แก้ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 3 มาตรา 2) ขอให้ออกระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และ 3)ให้ออกคำสั่ง
คณะทำงานการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาหนี้สินของสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามมติครม.วันที่ 7 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา จากข้อเรียกร้องดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯร่วมกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ดำเนินการตามข้อเรียกร้องครบทั้ง 3 ประเด็น โดยข้อเรียกร้องประเด็นที่ 1 การแก้ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 3 มาตรา ได้ลงนามถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบและดำเนินการต่อไป ส่วนประเด็นที่ 2 และ 3 ได้ลงนามคำสั่งและประกาศ เพื่อใช้ฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯพิจารณาแล้วเห็นว่า การแก้กฎหมายกองทุนฟื้นฟูทั้ง 3 มาตราดังกล่าว จะเกิดประโยชน์กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ จึงเห็นชอบและลงนามตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ประกอบด้วย มาตรา 16 แก้ไขวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนเกษตรกร เพิ่มจาก 2 ปี เป็น 4 ปีทำให้คณะกรรมการทำงานได้นานขึ้น ประหยัดงบประมาณเลือกตั้ง มาตรา 23 แก้ไขที่ตั้งสำนักงานใหญ่และสาขาจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพื่อให้จัดหาที่ตั้งของสำนักงานได้ตามความจำเป็น เนื่องจากพ.ร.บ.เดิมกำหนดไว้ว่าต้องมีที่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น และมาตรา 37/9 ปรับปรุงแก้ไขวิธีการชำระหนี้แทนเกษตรกร กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และบุคคลค้ำประกัน ให้กองทุนซื้อหนี้ที่มีบุคคลค้ำได้ด้วย ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรได้ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ก็ใช้เสนอโครงการส่งเสริมฟื้นฟูอาชีพของสมาชิกกองทุน เพื่อเพิ่มรายได้สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามวัตถุประสงค์ของกองทุน และในส่วนคำสั่งคณะทำงานการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินของสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามมติ ครม.วันที่ 7 เมษายน 2553 วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสมาชิก กฟก. 3,000 กว่าราย ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใต้มติดังกล่าว แต่หมดระยะเวลาของโครงการ และกำลังเดือดร้อนหนัก อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพอใจการเร่งรัดแก้ปัญหาและดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี