กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังเดินหน้าขับเคลื่อนบิ๊กโปรเจกท์ “Mega Farm Enterprise” เพื่อยกระดับระบบเกษตรกรรมไทย โดยเริ่มตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายออกสู่ตลาดให้มีศักยภาพ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ตามนโยบาย “การตลาดนำการผลิต” ภายใต้แนวทาง “การจัดทำแผนการผลิตภาคการเกษตร” (Agricultural Production Plan) และ “โครงการเกษตรแปลงใหญ่” (Mega Farm Project) ซึ่งมีเกษตรกรและภาครัฐรวมทั้งภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเกษตรแปลงใหญ่ วัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบเกษตรกรรมของไทย สามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพได้มาตรฐาน ภายใต้การบูรณาการของภาครัฐและเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับกลุ่มเกษตรกรในการบริหารจัดการแปลงใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายแปลงใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 แปลงใหญ่ ต่อ 1 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 6 แปลง พื้นที่ไม่จำเป็นต้องติดกัน รวมกันตั้งแต่ 1,000 ไร่ ขึ้นไป สำหรับ พืชผัก สมุนไพร ไม้ดอกไม้ประดับ พื้นที่รวมกันไม่น้อยกว่า 300 ไร่ เพื่อก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการผลิต ทำให้ต้นทุนการทำเกษตรกรรมลดลงโดยคัดเลือกจากพื้นที่ อาทิ พื้นที่ ส.ป.ก.ที่มอบให้เกษตรกร พื้นที่ตามโครงการจัดทำที่ดินทำกินแห่งชาติ (คทช.) พื้นที่ซึ่งเกษตรกรได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตร หรือวิสาหกิจชุมชน พื้นที่ที่ทำการเกษตรแปลงใหญ่อยู่แล้วรวมกันอยู่หลายๆ แปลงในพื้นที่อำเภอเดียวกัน...ต้องติดตามกันต่อไปครับ
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลของปวงชนชาวไทยและด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงหนุนประชาชนทำบัญชี สร้างพลังการออม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการส่งเสริมการทำ “บัญชี” ให้แก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพ วิสาหกิจชุมชนและกลุ่มเป้าหมายตามโครงการพระราชดำริ เกษตรกร และประชาชนทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือนำทางให้ผู้ทำบัญชี “ทำบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็น เห็นเงินออม”เกิดแรงจูงใจที่จะปรับเปลี่ยนตนเองสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา ในการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องด้านการเกษตร สร้างฐานชีวิตให้มั่นคง เข้มแข็ง ส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำ พร้อมทั้งเป็นพลเมืองดี ใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ โดยน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก้าวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน และเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลของปวงชนชาวไทยและด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสอันดีในการสร้างแรงบันดาลใจให้พสกนิกรไทยได้น้อมนำมาปฏิบัติอย่างเป็นระบบ สมดั่งพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดศาสตร์พระราชาในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมสนองงานตามพระราชดำริมาโดยตลอด และเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยให้ความรู้ด้านการจัดทำบัญชีรายบุคคล จึงได้จัดทำ“โครงการทำบัญชีส่งเสริม การออม เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” ขึ้น เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ด้วยการสร้างพลังการออม : ออมเงิน ออมความดี เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการออม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างวิถีการออมด้วยบัญชี อันจะนำไปสู่วิถีการใช้ชีวิตอย่างมีวินัยทางการเงิน เกิดกลไกที่เข้มแข็งในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป จำนวน 100,000 คน และกำหนดจัดกิจกรรมในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และสิ้นสุดในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รวมระยะเวลา 4 เดือน (เมษายน-กรกฎาคม 2562) แบ่งเป็น 2 กิจกรรม ดังนี้ 1. กิจกรรม “ทำบัญชีส่งเสริมการออม” เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมาย จำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 คน ได้เกิดแรงกระตุ้นในการสร้างวินัยทางการเงิน ลดรายจ่าย ลดหนี้สิน มีเงินออม 2. กิจกรรม “สร้างพลังการออม : ออมเงิน ออมความดี”เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายมีเงินออมเกิดขึ้น โดยตั้งเป้าหมายมีเงินออมรวมกัน จำนวน 10,000,000 บาท ซึ่งท่านอธิบดีโอภาส บอกว่า โครงการฯนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนรู้และเข้าใจประโยชน์ของการทำบัญชีและการมีเงินออม ซึ่งข้อมูลทางบัญชีสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจและการพัฒนาในด้านต่างๆ ให้ผู้ทำบัญชีสามารถดำรงชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ เกิดการต่อยอด สร้างเครือข่ายขยายผลในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาตนเองและชุมชนได้ต่อไป
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี