สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ
เสกน้ำอภิเษกรวม
วิหารหลวงวัดสุทัศน์
ปชช.ปีติร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์
สั่งเปิดกอร.พระราชพิธีฯ
มท. จัดขบวนอัญเชิญคนโทน้ำอภิเษกและน้ำสรงมุรธาภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 จากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยไปวัดสุทัศน์ เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกรวม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ตามฤกษ์ 17.19 น. ขณะที่ประชาชนสวมเสื้อเหลืองรอชมขบวนฯ และเข้าร่วมพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์เนืองแน่น ด้านบิ๊กป้อมเปิดกอ.ร่วมพระราชพิธีดูแล 24 ชม. แบ่ง6โซนพื้นที่ เปิด21จุดคัดกรอง ย้ำถวายความปลอดภัยสูงสุด สมพระเกียรติ
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) จัดขบวนเชิญน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวรารามราชวารมหาวิหาร โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ข้าราชการระดับสูง เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ตั้งขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกลงจากห้องดอกแก้ว ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยขึ้นรถ ก่อนเคลื่อนไปยังวัดสุทัศน์ฯ ตามถนนอัษฎางค์เลี้ยวขวาเข้าถนนบำรุงเมืองและเข้าสู่ถนนดินสอเลี้ยววนรอบเสาชิงช้า จนถึงด้านหน้าวัดสุทัศน์ฯ ระยะทาง 740 เมตร
ปชช.ปีติรอชมขบวนเชิญน้ำอภิเษก
สำหรับรูปแบบขบวนเชิญน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษกจากกระทรวงมหาดไทยไปวัดสุทัศน์ฯ ประกอบด้วยรถตำรวจนำขบวนตามด้วยวงดุริยางค์กองทัพบก 52 นาย บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 3 บทเพลง ได้แก่ เพลงใกล้รุ่ง เพลงมาร์ชราชวัลลภและเพลงยามเย็น ต่อด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเชิญธงชาติ 34 นายและเชิญธงตราสัญลักษณ์ 34 นายรวมทั้งสิ้น 68 นายจากนั้นเป็นรถเชิญคนโทน้ำอภิเษกรวม 86 ใบตามด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย , ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯกทม. รวมทั้งหมด 86 คนถัดมาเป็นผู้เชิญคนโทน้ำ 86 คนและผู้ร่วมขบวนปิดท้ายด้วยรถตำรวจ รวมจำนวนแถว 52 แถวรวมผู้ร่วมริ้วขบวนประมาณ 500 คนความยาวของขบวนประมาณ 92 เมตร
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกเคลื่อนผ่าน มีประชาชนจากทั่วสารทิศมารอเฝ้าชมความงดงามของขบวนที่เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งใจจะอยู่ร่วมพิธีเสกน้ำอภิเษกในช่วงเย็นและจะมาทุกวันที่มีพระราชพิธี เนื่องจากรู้สึกเป็นมงคลชีวิต ที่ได้เห็นพระราชพิธีสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย ส่วนใหญ่มาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อได้ชมขบวนอย่างใกล้ชิด
เมื่อขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกเคลื่อนถึงวัดสุทัศน์ฯ พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการทุกจังหวัดตั้งแถวหน้าพระวิหารวัดสุทัศน์ฯ ผู้เชิญคนโทน้ำอภิเษกเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากรถเข้าไปวางภายในพระวิหารหลวง และเดินกลับเข้าขบวนก่อนเคลื่อนขบวนฯกลับกระทรวงมหาดไทย
สมเด็จพระสังฆราชปธ.เสกน้ำ
จากนั้น ช่วงเย็นวันเดียวกัน มีการประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกรวมจากกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัด ณ พระวิหารหลวง วัดสุทัศน์ฯ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ตามฤกษ์เวลา 17.19-21.30 น. สมเด็จพระสังฆราชทรงจุดเทียนชัย นายกรัฐมนตรีจุดเทียนวิปัสสี เทียนมหามงคล และเทียนมหาหรคุณ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ จุดธูปเทียนบูชาเทพยดา อ่านประกาศชุมนุมเทวดา พระสงฆ์ 68 รูป เจริญพระพุทธมนต์ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนที่ครอบสัมฤทธิ์ แล้วถวายสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระสังฆราช ทรงโปรย ข้าวตอก ดอกไม้ และทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่คนโทน้ำพระพุทธมนต์ จากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ภายในราชวัติ
พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ถวายคันประทีป สั่นกระดิ่ง และโปรยข้าวตอก ดอกไม้ที่คนโทน้ำพระพุทธมนต์จากจังหวัดต่าง ๆทั่วประเทศ ภายในราชวัติ นายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา ร่วมกันถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และย่ามปักตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายกรัฐมนตรี กรวดน้ำ พระสงฆ์อนุโมทนา ถวายอดิเรก นายกรัฐมนตรีไปยังหน้าพระสวดภาณวาร จุดเทียนทอง-เงินและเครื่องบูชากระบะมุก จุดเทียนพุทธาภิเษก ข้างตู้เทียนชัยซ้าย-ขวา แล้วเดินทางกลับ
19เมย.เชิญน้ำอภิเษกเก็บวัดพระแก้ว
กระทั่งเวลา 20.10 น.สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เดินทางถึงพระวิหารหลวง วัดสุทัศน์ฯ แล้วเดินไปยังตู้เทียนชัย รมว.มหาดไทยถวายใบพลูแด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ และเวลา 20.19 น.สมเด็จพระพุฒาจารย์ บริกรรมคาถาและดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จพิธี
ทั้งนี้ วันที่ 19 เมษายน เวลา 06.00 มีการจัดริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษก และน้ำสรงมุรธาภิเษก รวม 86 ใบ กำหนดเคลื่อนจากวัดสุทัศนเทพวรารามฯเพื่อเชิญไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤกษ์เวลา 07.30 น. โดยเคลื่อนขบวนฯจากวัดสุทัศน์ไปตาม ถ.ดินสอ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ราชดำเนินกลาง และเข้าสู่ ถ.ราชดำเนินใน ตรงไปยังประตูสวัสดิโสภา วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเก็บรักษาไว้รอถวายการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 4 พฤษภาคม
ปลูกต้นรวงผึ้งเฉลิมพระเกียรติ
ด้านพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 3 โครงการคือ โครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ โครงการฟื้นฟูพัฒนาลำน้ำ คูคลอง เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต และโครงการ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ โดยเพิ่มสวนหย่อม สวนสาธารณะให้ชุมชน ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางดำเนินการ รวมทั้งร่วมพัฒนาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้มีสถานที่ทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย
รมว.มหาดไทยกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรตินั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่ พระราชทาน ต้นรวงผึ้ง ให้แต่ละจังหวัดนำไปปลูก เพื่อความเป็นสิริมงคลโดยจังหวัดต่างๆจะเร่งปลูกให้เรียบร้อย ก่อนงานพระราชพิธีหรือภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ โดยจะหากฤกษ์วันมงคลทำกิจกรรมอีกครั้ง ซึ่งแต่ละจังหวัดจะสำรวจและคัดเลือกถนนที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ หรือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดมาปรับปรุงเพื่อทำกิจกรรมดังกล่าว
สั่งเปิดกอร.พระราชพิธี
วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม มีการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและอำนวยการการจราจรพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมเป็นประธาน หลังหารือพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า พล.อ.ประวิตรเป็นประธานในพิธีเปิดกองอำนวยการร่วมฯที่ ห้องยุทธนาธิการกระทรวงกลาโหม นับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 เมษายน โดยกองอำนวยการร่วมฯแห่งนี้จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
แบ่งพื้นที่6โซนเข้มรปภ.-จราจร
พล.ต.ท.ปิยะกล่าวต่อว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการข่าว ปรากฏว่าประชาชนคนไทยต่างมีส่วนร่วมทุกกิจกรรมในทุกจังหวัดเป็นอย่างดี ยังไม่ปรากฏข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อพระราชพิธีอย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรยังกล่าวแสดงความห่วงใย และสั่งการไว้ 7 ประเด็นได้แก่ 1. ศูนย์ฯดังกล่าวจะประชุมทุกวัน เวลา 09.00 น.และสรุปผลประชุมรายงานให้รองนายกฯรับทราบ 2 .ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามข่าวสารข่าวกรอง ข้อมูลต่างๆอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนปฏิบัติให้สอดคล้องกับเหตุการณ์
3.ได้จัดแบ่งพื้นที่เป็น 6 โซนดูแลความปลอดภัย และการจราจร ให้ผบช.ภ.ดูแล มีหน้าที่พิสูจน์ทราบข้อมูลส่วนบุคคลยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ ทั้งบนฟ้าในน้ำในอากาศ บนดิน สแกนทุกอย่างจนสิ้นสุดพระราชพิธี เพื่อปรับแผนให้ทันสถานการณ์ ถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด สมพระเกียรติ
ตั้ง21จุดคัดกรองตรวจละเอียดยิบ
4.ต้องซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ 5 ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง 6 โซนและจุดคัดกรองทั้ง 21จุด ที่มีอยู่ จะนำเทคโนโลยีของตำรวจและทหาร ฝ่ายข่าวกรอง กสทช. รวมถึงโทรคมนาคมต่างๆ ทั้งระบบสแกนใบหน้า การพิสูจน์ทราบบุคคลระบบฐานข้อมูล CCTV ต่างๆมาใช้เพื่อการดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 6 .ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะผู้บัญชาการระดับโซน ต้องลงรายละเอียดเชิงลึกทั้งการรักษาความปลอดภัยและการจราจร และ7.ข้าราชการทุกนายถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุด ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้ขอให้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุดให้สมพระเกียรติและเป็นไปตามพระราชประสงค์
ดูแลปชช.ฐานะแขกของพระองค์
พล.ต.ท.ปิยะกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้พูดถึงจิตอาสาจากส่วนต่างๆ จะมีการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนเป็นต้นไป ขณะที่กองอำนวยการร่วมฯ จะทำหน้าที่ ดูแลรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธีอย่างเข้มแข็ง เพราะเราถือเป็นแขกของพระองค์ท่าน
ขณะที่พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวถึงการปิดการจราจรวันที่ 19 เมษายน ซึ่งเป็นขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ฯไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยกำหนดปิดการจราจร 16 เส้นทางตั้งแต่เวลา 06:00-11:00 น เป็นระยะทาง 1,890 เมตร ที่ริ้วขบวนจะเดินผ่าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับวันที่ 21 เมษายนนั้น เป็นการซักซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคในพื้นที่จริงอีกครั้ง โดยจะปิดเส้นทาง 40 เส้นทาง ตั้งแต่ 16:00-22:00 น
ด้านนายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมระบุ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือขสมก. เตรียมรถโดยสารทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 960 คันใน 27 จุด จาก 16 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าร่วมพระราชพิธีฯ ขณะที่พื้นที่ภายในกรุงเทพฯจะจัดรถชัตเติ้ลบัสรับส่งประชาชนใน 16 เส้นทางในระหว่างวันที่ 2- 6 พฤษภาคม รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทยนอกจากจะมีการจัดรถบริการประชาชนจากขบวนรถปกติจะเพิ่มขบวนรถพิเศษจากนครปฐมมหาชัยอยุธยาและฉะเชิงเทรา รวมทั้ง จัดเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง ขณะที่เดียวกันได้เตรียมรถยกไว้ช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหารถเสีย ซึ่งการดำเนินการจะใช้โมเดลในงานพระราชพิธีสำคัญอื่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี