19 เม.ย.62 ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ในหัวข้อเรื่อง "กัญชา...ก่อนภูมิปัญญาจะหายไป" โดยระบุว่า
จากการลงพื้นที่สำรวจความรู้ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพื้นภาคใต้พบว่า ชาวบ้านมีการใช้กัญชามาปรุงอาหาร ใบอ่อนนามาใช้เป็นอาหาร โดยเอามาใส่แกงส้ม แกงกะทิแกงมัสมั่นเมนูผัดหรือรับประทานสด เป็นผักจิ้มน้ำพริก น้ำบูดูแต่จะใช้ปริมาณน้อย 1-2 ใบ (ใช้มากจะทำให้เมาได้)
ว่ากันว่ากัญชาเพิ่มรสชาติอาหาร ทำให้กินข้าวได้มากนอนหลับสบายในส่วนของการใช้ประโยชน์ทางยาหมอยาพื้นบ้านภาคใต้ใช้ใบกัญชาแก้ปวดฟันโดยนำใบมาขยี้พอแหลก นำไปพอกหรืออุดบริเวณที่มีอาการ หรือนำใบไปต้มจนเดือด ดื่มอุ่นๆ ช่วยรักษาอาการปวดเมื่อย เป็นยาแก้กษัยเส้นและให้ผ่อนคลาย คลายเครียด หรืออีกตำรับหนึ่ง ท่านก็ว่านำใบตำละเอียดผสมนำ้ต้มสุกนำมาพอกหนังศีรษะประมาณ ครึ่งชั่วโมงแก้อาการผมร่วง คันหนังศีรษะได้ นอกจากภาคใต้แล้วหมอยาพื้นบ้านในภาคอื่นใช้ดอกกัญชาปิ้งไฟให้เหลือง กรอบ ตำผสมพริกแกงเผ็ดปรุงให้คนไข้เบื่ออาหารรับประทาน ทำให้คนไข้กินข้าวได้มากโดยไม่รู้ตัว หมอยาบางท่านใช้น้ำจากบ้องกัญชากรอกให้คนไข้อหิวาต์กิน ตื่นมาอาการทุเลาลง
ในใบกัญชามีสารเมาน้อย สารเมาละลายน้ำได้น้อย การเอามาใส่แกง ในปริมาณจำกัด เช่น 1-2 ใบสารเมาจึงจะน้อยมากๆ
สารเมาในกัญชา ละลายในน้ำมันได้ดี การนำไปชุบแป้งทอด สารเมาจะถูกสะกัดให้ออกไปกับน้ำมันที่ใช้ทอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี