ปชช.ปลื้มปีติพิธีศักดิ์สิทธิ์
เชิญน้ำอภิเษก
ถึงอุโบสถวัดพระแก้ว
สมพระเกียรติ‘ร.10’
รัฐบาลเพิ่มช่องทาง
จำหน่ายเข็มที่ระลึกฯ
บิ๊กซี10สาขาทั่วปท.
ขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกและน้ำสรงมุรธาภิเษก จากวิหารหลวงวัดสุทัศน์ไปเก็บรักษาไว้ที่พระอุโบสถวัดพระแก้ว อย่างเรียบร้อย สมพระเกียรติ ปชช.ปลื้มปีติเฝ้าชมขบวนฯน้ำอภิเษกใกล้ชิด เผยเป็นมงคลชีวิตและยืนยันจะมารอเฝ้าฯรับเสด็จ “ร.10” วันที่ 4-6 พฤษภาคม อีกครั้งเพื่อแสดงความจงรักภักดี ด้านรัฐบาลเพิ่มช่องทางจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ บิ๊กซี 10 สาขา-ไปรษณีย์ทั่วประเทศ เริ่ม 25 เมษายน จำกัดคนละ 2 เข็ม
เมื่อวันที่ 19 เมษายน กระทรวงมหาดไทย (มท.) ประกอบพิธีเชิญคนโทน้ำอภิเษกและคนโทน้ำสรงพระมุรธาภิเษก จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรวิหารไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเก็บรักษาไว้รอถวายการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4 พฤษภาคมต่อไป
ทั้งนี้ เวลา 06.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เชิญคนโทน้ำอภิเษกและคนโทน้ำสรงพระมุรธาภิเษก ออกจากพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม โดยพล.อ.อนุพงษ์ เชิญคนโทน้ำสรงพระมุรธาภิเษก ออกจากพระวิหารหลวงวัดสุทัศนฯเป็นคนสุดท้าย ในเวลา 06.45 น. พร้อมตั้งขบวนหน้าวิหารวัดสุทัศน์ฯ และเชิญคนโทน้ำอภิเษกทั้งหมด 86 คนโท วางบนรถเชิญคนโท
จากนั้นเวลา 07.00 น. ได้เคลื่อนขบวนฯจากวัดสุทัศน์ฯไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามโดยใช้เส้นทางถนนดินสอ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินกลาง เข้าถนนราชดำเนินใน ตรงไปยังประตูสวัสดิโสภา โดยรูปแบบขบวนมีรถนำตามด้วยวงดุริยางค์กองทัพเรือ 50 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ควบคุมวง 2 นาย ตามด้วยนักเรียนนายร้อยตำรวจเชิญธงชาติ 68 นาย และธงตราสัญลักษณ์ 68 นาย รวมทั้งหมด 136 นายตามด้วยผู้เชิญพานกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ 10 คน และรมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทย ข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 10 คน รวมทั้งหมด 20 คน
ลำดับถัดมาเป็นผู้เชิญพานพุ่มทอง-พานพุ่มเงิน154 คนผู้ว่าราชการจังหวัด 77 คน รวมทั้งหมด 231 คนต่อด้วยรถเชิญคนโทน้ำ จากนั้นเป็นผู้เชิญคนโท 86 คน ตามด้วยวงดุริยางค์กองทัพอากาศ 50 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ควบคุมวง 2 นายถัดมาเป็นข้าราชการผู้ร่วมพิธี 600 คนต่อด้วยรถปิดขบวนโดยมีผู้ร่วมขบวนทั้งหมด 1,200 คน ความยาวของขบวนประมาณ 178 เมตร
กระทั่งเวลา 07.45 น. ขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกถึงประตูสวัสดิโสภา ผู้ว่าฯกทม. และผู้ว่าฯ 76 จังหวัดเชิญพานพุ่มทอง-พานพุ่มเงินนำไปวางจุดที่กำหนดบริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเดินไปตั้งแถวหน้าปราสาทพระเทพบิดรตามลำดับ จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ นายสุธีและข้าราชการระดับสูงของมท รวม 10 คน เชิญพานกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น เดินไปตั้งแถวด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร ก่อนที่ รมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทย และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ 77 จังหวัด เชิญคนโทน้ำอภิเษกไปวางในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและเดินกลับมาตั้งแถวหน้าประตูสวัสดิโสภา ก่อนเคลื่อนขบวนฯกลับกระทรวงมหาดไทยเป็นอันเสร็จพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนเชิญน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษกไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยตลอดสองข้างทางที่ขบวนฯผ่านมีประชาชนเฝ้ารอชื่นชมขบวนคนโทเชิญน้ำอภิเษกจำนวนมาก โดยเฉพาะหน้าวัดสุทัศน์ฯ และด้านหน้าประตูสวัสดิโสภาหลายคนชูภาพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายคนยกมือขึ้นไหว้ นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่สนใจชมริ้วขบวนฯ ต่างนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
สอบถามน.ส.จริยา ชนิดปลอด ชาวจ.นนทบุรีเผยว่า ภูมิใจที่ได้เห็นขบวนพระราชพิธีสำคัญและยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนเกิดไม่ทัน และจะมาดูทุกครั้งที่มีการซ้อมริ้วขบวนวันที่ 28 เมษายนจะมีพิธีซ้อมใหญ่เสมือนจริง ตนจะมาชมอีก
เช่นเดียวกับ นางมณีรัตน์ เลาวเลิศ อายุ 61 ปี กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า มาจากจ.สมุทรสาครตั้งแต่ 04.00 น. อยากเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยเป็นพระราชประเพณีที่มีมาแต่โบราณและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสร่วมพิธีมหามงคลนี้ ต้องมาให้ได้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่อยู่กับคนไทยมานาน ซึ่งช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4-6 พฤษภาคมจะมาทุกวัน เตรียมพร้อมไว้แล้วทั้งอุปกรณ์กันแดดอาหาร ยาดมและน้ำดื่ม อยากจะได้มาเฝ้ารับเสด็จฯเพื่อชื่นชมพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแถลงว่า รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนได้เชิญไปประดับช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยรายได้จากการจำหน่ายเข็มที่ระลึกฯ ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
“สปน.เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯแต่เพียงผู้เดียว ไม่อนุญาตภาคเอกชนรายใดจัดทำ หากพบถือว่ามีความผิดตามกฎหมายต้องดำเนินคดี รวมถึงขายเกินราคาก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน ทั้งนี้ ได้เปิดให้ประชาชนสั่งจองเข็มที่ระลึกฯ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านระบบออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เว็บไซต์ thailandpostmart.com ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา โดยสั่งจองได้ไม่จำกัดจำนวน”นายวิษณุกล่าว และว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ประสงค์จะให้จัดส่งเข็มที่ระลึกฯ ถึงที่อยู่ผู้รับผ่านบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ ก็จะมีค่าธรรมเนียมจัดส่งตั้งแต่ 40 บาท ขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับจำนวนของเข็มที่ระลึกฯ ที่สั่งจอง
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการจำหน่ายเข็มที่ระลึกฯครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)นำเข็มที่ระลึกฯ ไปจำหน่ายยังบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 150,000 เข็ม โดยครั้งแรกจะจำหน่ายใน 10 สาขา ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนเป็นต้นไป จนกว่าเข็มที่ระลึกฯจะหมด จำหน่ายสาขาละ 5,000 เข็ม รวม 50,000 เข็ม ราคาเข็มละ 300 บาท
โดยภาคเหนือจำหน่ายที่ จ.เชียงใหม่ และพิษณุโลก ภาคใต้จำหน่ายที่ จ.สุราษฎร์ธานี และสงขลา (หาดใหญ่) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำหน่ายที่ จ.นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลางจำหน่ายที่ จ.นครสวรรค์ ภาคตะวันออกจำหน่ายที่ จ.ระยอง ส่วนที่กรุงเทพมหานคร จำหน่ายที่สาขาราชดำริ 3 รอบ วันที่ 25, 30 เมษายน และ 2 พฤษภาคม และสาขาดาวคะนอง ทั้งนี้ จำกัดจำนวนคนละ 2 เข็ม ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองคลัง สปน. หมายเลขโทรศัพท์ 0 2283 4344 และ 09 2249 2671 ขอเชิญชวนข้าราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมประดับเข็มที่ระลึกฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และร่วมเฉลิมฉลองงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รวมทั้งเก็บรักษาไว้เป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี