20 เม.ย.62 ณ ที่ทำการทางยุทธวิธีกองกำลังสุรนารี อำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ หัดกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในการแถลงข่าวหลัง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรอำเภอเขมราฐ นำโดย พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร ผู้กำกับฯ สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สส.ภ.จว.อบ. พ.ท.คมวัชรินทร์ กอทอง ฝ.เสธ.ทก.กกล.สุรนารี พ.ต.ธนภณ พงษ์เสือ หน.ชุดข่าวพิเศษที่ 3 พ.ต.อภิรัตพงค์ กีรติชัยเศรษฐ ผบ.ทพ.2301 ร.ท.ธวัช กงสะกาง ผบ.ทพ.2305 จนท.ทหารจาก กอง 12 ศรภ.บก.ทท. นรข.เขตอุบลราชธานี ตม.เขมราฐ ตชด.227 ตำรวจน้ำ และฝ่ายปกครอง จับกุมตัว นายมงคล แก้วทองดี อายุ 40 ปี นายอภิชัย สายสีดา อายุ 29 ปีและนายอิทธิพล สาระโท ทั้ง 3 คน เป็นชาวอำเภอเขมราฐและอำเภอนาตาล ได้พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยจำนวน 258,000 เม็ดและยาไอซ์ 1,102 กรัม ที่วางอยู่บนรถ มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท พร้อมตรวจยึดรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสันสีดำหมายเลขทะเบียน ภก-676 กทม. 1 คันทองรูปพรรณ และสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่ม ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท
โดยจับกุมได้บนถนนสายอุบลราชธานี-มุกดาหาร บนสะพานห้วยสมบัติ เขตบ้านถ้ำเสือ อำเภอเขมราฐ หลังเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่อีกชุดใช้รถยนต์ของทางราชการ 2 คัน เปิดสัญญาณไฟไซเรน จอดขวางถนนไว้บนสะพานดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนหยุดรถพยายามจะวิ่งหลบหนีแต่ไปไม่รอด
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน สารภาพ รับยาบ้ามาจากชายแดนไทยลาวริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตอำเภอเขมราฐ กำลังจะนำไปส่งให้เอเยนต์ใหญ่รายหนึ่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยจะได้ค่าจ้าง 7 แสนบาทเมื่อส่งถึงที่หมาย แต่มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผล เอาผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ในหลายจังหวัดของภาคอีสานมาดำเนินคดี พร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายตรวจยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี