ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติเปิดเผยว่า สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ (สกช.)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือป้องกันแก้ปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 โดยตกลงร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในโทษของยาเสพติด เข้าใจงานป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด มีส่วนร่วมชักชวนแนะนำผู้เสพและผู้ติดยาเข้าขบวนการบำบัด และช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารนโยบายป้องกันแก้ปัญหายาเสพติด สอดคล้องกับพ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ที่กำหนดบทบาทภารกิจของสภาเกษตรกรแห่งชาติตามมาตรา 11(8) พัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกร ที่ผ่านมาร่วมมือกันดี โดยปี 2560 และปี 2561 ในระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมกันสร้างความเข้าใจกับบุคลากรเพื่อการทำงานระดับพื้นที่ ให้เข้าใจเรื่องของโทษและพิษภัยยาเสพติด รวมทั้งป้องกันภัยจากยาเสพติดระดับจังหวัด อำเภอ และชุมชนต่อไป
สำหรับปีงบประมาณ 2562 สำนักงาน ป.ป.ส.สนับสนุนการจัดโครงการพัฒนาเครือข่ายสภาเกษตรกรป้องกันภัยยาเสพติด เป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายสภาเกษตรกรป้องกันภัยยาเสพติดระดับตำบลฯ ให้ตระหนักถึงพิษภัยด้านยาเสพติดจนเกิดภูมิคุ้มกันในตนเองและครอบครัวขยายผลสู่ชุมชน รวมทั้งถ่ายทอดข้อมูลด้านยาเสพติดให้เพื่อนเกษตรกรด้วยกันในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งการดำเนินการโครงการแบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วนคือ การบรรยายสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ความรู้เรื่องโทษ พิษภัยยาเสพติด รวมทั้งปัจจุบัน ป.ป.ส.แก้พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ให้นำกัญชามาใช้ป้องกันและรักษาโรคได้ ซึ่งประชาชนยังสับสนเรื่องนำกัญชานำมาใช้ป้องกันรักษาโรค จึงให้ความรู้ด้วยว่าขณะนี้กัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ การจะปลูกหรือใช้สารสกัดกัญชารักษาโรคต้องทำอย่างไร จากนั้นจะระดมความเห็นแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพรับส่งต่อข้อมูลเพื่อกระจายการรับรู้ให้ประชาชน และความเห็นด้านขยายเครือข่ายป้องกันภัยยาเสพติด อีกส่วนที่สำคัญคือ โครงการนี้จะสรุปผลงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาเกษตรกรจังหวัดที่ดำเนินการใน 6 ปีที่ผ่านมา โดยจะระดมความเห็นการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของแต่ละอำเภอว่ามีข้อเสนออะไรบ้าง โครงการนี้จะเริ่มต้นจัดนำร่องที่กรุงเทพมหานครวันที่ 22 เมษายน ที่เรสคิวฟาร์ม แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จากนั้นจะจัดให้ครบทุกจังหวัดให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน
“ความแตกต่างของโครงการนี้กับโครงการปี’60 และปี’61 คือ หลังจบเวทีสัมมนาจะเริ่มตั้งกลุ่มสื่อสารแบบ 2 ทางคือข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรและการป้องกันภัยยาเสพติดจากส่วนกลางจะสื่อสารลงไปถึงกลุ่มเครือข่ายสภาเกษตรกรระดับตำบลทุกตำบล ที่กลุ่มเครือข่ายป้องกันภัยยาเสพติดตั้งขึ้นด้วยระบบออนไลน์ ขณะเดียวกันสถานการณ์การเกษตร การป้องกันภัยยาเสพติดจากเครือข่ายทุกตำบลจะสื่อสารมาสู่ส่วนกลาง เรียกได้ว่าคลิกเดียวรู้ทุกตำบล ซึ่งผลความร่วมมือจะมุ่งไปที่การป้องกันตนเอง ครอบครัว ชุมชนของเกษตรกรไม่ให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี