ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ข่าวว่าคนไทยหลบร้อนไปเที่ยวต่างประเทศเป็นจำนวนหลักแสน ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่ดอกซากุระ สัญลักษณ์อันลือนามของญี่ปุ่นยังเบ่งบานอยู่ คนไทยที่ไม่เคยเจอกันในเมืองไทยจึงมีโอกาสได้ไปเจอกันเพราะดอกซากุระบานนั่นเอง
เมื่อเอ่ยถึงดอกซากุระ หากเป็นเมืองไทยผมนึกถึงดอกนางพญาเสือโคร่งที่สถานีทดลองเกษตรที่สูงขุนวางขึ้นมาทันที จะเป็นด้วยความผูกพันหรือสิ่งใดก็ไม่อาจทราบได้ ทำให้เหตุการณ์ต่างๆในชีวิตผมเกี่ยวพันกับสถานที่แห่งนี้ และช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผมก็ได้มีโอกาสไปเยือนสถานีแห่งนี้ เลยขึ้นไปถึงสถานีทดลองเกษตรที่สูงขุนวางกับคณะของผู้ที่เคยเข้าอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงของสำนักงาน ก.พ. รุ่นที่ 42 หลายๆ ท่าน ถือว่าเป็นการเดินทางครั้งแรกสำหรับสถานที่แห่งนี้ และค่อนข้างตื่นตาตื่นใจสำหรับทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ไม่ได้อยู่ในสาขาเกษตร เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นต้นและผลของแมคคาเดเมีย และต้นนางพญาเสือโคร่ง เจ้าของฉายาดอกซากุระเมืองไทย ถึงแม้ว่าจะไม่มีดอกให้เห็นแล้วก็ตาม รวมทั้งได้เข้าใจและลึกซึ้งกับชีวิตของนักวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ผู้ซึ่งมีความสุขกับงานที่ทำมากกว่าความกระตือรือร้นในการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
สถานีทดลองเกษตรที่สูงขุนวาง สังกัดศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ สถาบันวิจัยพืชสวน สถานีทดลองแห่งนี้เกิดขึ้นมาได้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯได้เสด็จพระราชดำเนินมา ณ ที่ตั้งของสถานี ณ ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2523 ซึ่งสมัยนั้นที่แห่งนี้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของชาวไทยภูเขา ตามการกราบบังคมทูลของ ม.จ.ภีศเดช รัชนี จึงทรงมีพระราชดำรัสให้กองพืชสวน ของกรมวิชาการเกษตร เข้ามาดำเนินการใช้พื้นที่ในการทดลองและขยายพันธุ์พืชสำหรับพื้นที่สูง โดยเน้นให้เป็นไม้ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับพื้นที่ ต่อในปี 2524 จึงตั้งเป็นสถานีทดลองเกษตรหลวงขุนวาง และในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2527 พระองค์ได้เสด็จฯมายังสถานีแห่งนี้ และได้ทรงปลูกต้นแมคคาเดเมียต้นแรกในวันดังกล่าว ปัจจุบันต้นแมคคาเดเมียต้นนี้ก็ยังคงอยู่
ข้าราชการในยุคก่อตั้งของสถานีแห่งนี้ที่สำคัญคือ คือ คุณดำเกิง ชาลีจันทร์ (ปัจจุบันคือพระอาจารย์ดำเกิง) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถานีในยุคแรก มีส่วนสำคัญในการวางรากฐานของการพัฒนาและการคัดเลือกพืชมาปลูกในสถานที่แห่งนี้ นักวิจัยเก่งๆ หลายคนก็เกิดจากสถานีแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณจำรอง ดาวเรือง คุณชลธี นุ่มหนู คุณพิจิตร ศรีปินตา คุณเกษม ทองขาว และคนอื่นๆ อีกมาก ต้นนางพญาเสือโคร่งก่อนที่จะโด่งดังไกลนั้น เกิดจากแนวคิดการพัฒนาของคนเพียงไม่กี่คน กลุ่มคนเหล่านี้ยังคงพอใจที่จะยืนนิ่งมองความสำเร็จของความเพียรพยายาม ยืนมองผู้คนที่ขึ้นมาเยือนในมุมสงบของตนเอง ชื่นใจกับความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาที่แตกต่างไปจากยุคเริ่มแรก มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปจากเดิมในแทบทุกด้าน ในขณะที่นักวิจัยเหล่านี้ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทำงานในสถานี รอดูผลสำเร็จ แล้วเริ่มงานใหม่เป็นวัฏจักรวนๆ ไป จนหลายๆ คน เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่มีบ้านพักเป็นของตนเอง เนื่องจากมัวแต่ทำงานจนลืมนึกไป กลายเป็นเรื่องเล่าของนักวิจัยที่ขำไม่ออก
ในส่วนตัวผม ผมชื่นชมกับนักวิจัยผู้ทุ่มเทและเสียสละอย่างสุดซึ้ง ผมได้แต่หวังว่าเขาเหล่านี้ จะสามารถได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความทุ่มเท การเป็นผู้ปิดทองหลังพระของนักวิจัยคงถึงเวลาแล้วที่ผู้คนทั่วไปจะได้รับรู้ เข้าใจ และตอบแทนเขาเหล่านั้นบ้าง
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี