นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศประมาณ 73 ล้านไร่ มีสถานีควบคุมไฟป่าทั่วประเทศ 147 สถานี ดูแลพื้นที่หลัก 26.437 ล้านไร่ ซึ่งปีนี้สถานการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะใน 9 จังหวัดภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.แพร่ จ.น่าน จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.พะเยา และจ.ตาก จึงดำเนินการแก้ปัญหาไฟป่าระยะเร่งด่วน ได้แก่ 1. กำหนด 60 วันห้ามเผา ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ 2.สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า 510 นาย จากทั่วประเทศมาช่วยดับไฟป่า 3.ตั้งกองอำนวยการควบคุมไฟป่าในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ 16 กอ. (พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 5 กอ. คือ กอ.ตาก /กอ.ดอยตุง/กอ.เชียงใหม่/กอ.อินทนนท์/กอ.แม่ฮ่องสอน โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ พิเศษดับไฟป่า สนับสนุนการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าแก่กองอำนวยการควบคุมไฟป่าด้วย นอกจากนี้ ยังบูรณาการกับทุกภาคส่วนตลอดจนประชาชนจิตอาสาที่มาช่วยป้องกันและร่วมดับไฟป่า ร่วมหยุดการลุกลามของ (Hot spot) ร่วมทำแนวกันไฟ การเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงอันตรายของการเผาป่าด้วย
ขณะที่การแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เร่งดับไฟป้องกันการลุกลาม ไม่ให้เกิดขึ้นอีก และอยากฝากประชาชนสามารถแจ้งเหตุไฟป่าได้ที่สายด่วน (Hotline) เฝ้าระวังไฟป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายเลข 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแนวทางเร่งด่วนในการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เน้นแก้ปัญหาการเผาระดับ ตำบล จึงตั้งเป็นคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันโดยการบูรณาการ ผู้ว่าราชการเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งหลังจากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่เริ่มลดลง จะเข้าสู่ระยะฟื้นฟูและสร้างความยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี