28 เม.ย.62 เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรัสย์ ขนิษฐวงศ์สกุล รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ต.อภิชาติ เกื้อสุข สว.ตม.จว.สระแก้ว ได้นำ จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว มาระดมกำลังร่วมกับ มทบ.19 และ ตร.สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ออกทำการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บริเวณตลาดนัดศูนย์แดง ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม.และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าไปก่อปัญหาอาชญากรรมและก่อเหตุลักทรัพย์และชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวในช่วงงานพระราชพิธีฯใน กทม.
โดย จนท.ได้ระดมกำลังเข้าปิดล้อมตลาดนัดศูนย์แดงฯ และสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าเมืองโยผิดกฎหมาย ได้จำนวน 17คน เป็นชาย 11คน หญิง 6 คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทาง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นของ จนท.แรงงานต่างด้าวชาวเขมรทั้ง 17 คน รับสารภาพว่าได้ลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เพื่อต้องการเดินทางไปหางานทำใน กทม. โดยได้มารวมตัวกันที่ตลาดนัดศูนย์แดง เพื่อรอขบวนการขนแรงงานเถื่อนชาวไทย นำรถยนต์มารับไปส่งใน กทม. แต่มาถูก จนท.ไทยจับกุมได้ก่อน
จนท.จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่ง สว.สอบสวน.สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดำเนินคดี ข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าวไม่เข้าตามช่องทาง,ไม่ยื่นรายการผ่านการตรวจและเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่วันเดียวกันนั้น เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรัสย์ ขนิษฐวงศ์สกุล รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ต.อภิชาติ เกื้อสุข สว.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว ออกลาดตะเวณ ป้องกันและปราบปรามขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังหมดเทศกาลสงกรานต์ ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ในพื้นที่เป้าหมายเขต อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยประสานความร่วมมือกับ มทบ.19 และ ตำรวจ สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ต่อมาขณะ จนท.ลาดตะเวณมาตามถนนสายบ้านโคกไม้งาม – บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฒภ 9105 กทม. บริเวณกระบะท้ายติดตั้งหลังคาแครี่บอยส์ วิ่งมาจากบริเวณชายแดน มุ่งหน้าเข้าตลาด อ.โคกสูงฯ จนท.จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นแต่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วขับหลบหนี แต่ จนท.ฯได้เตรียมรับสถานการณ์ไว้แล้ว ด้วยการนำรถยนต์มาจอดขวางถนนทำให้สามารถสกัดรถคันดังกล่าวไว้ได้ บริเวณริมถนนสายบ้านโคกไม้งาม – บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
จากการตรวจสอบพบมีนายสุภาพ พรม อายุ 54 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นผู้ขับขี่ และพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา นั่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถอีกจำนวน 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน ตรวจสอบพบว่ามีหนังสือเดินทาง แต่ไม่มีรอยตราประทับเข้าประเทศ แต่อย่างใด จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสุภาพ พรม ผู้ขับขี่ชาวกัมพูชา รับสารภาพว่ามีนายทุนคนไทย(ไม่ยอมบอกชื่อ) ว่าจ้างให้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับแรงงานชาติเดียวกันที่บริเวณชายแดน บ้านโนนหมากมุ่น ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ไปส่งทำงานใน กทม. ส่วนแรงงานกัมพูชาทั้ง6 คน อ้างว่าจะเดินทางกลับไปทำงานใน กทม.หลังกลับไปร่วมประเพณีสงกรานต์ที่บ้านเกิดฝั่งกัมพูชา โดยเดินทางกลับประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติที่ชายแดนบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และไม่ได้ผ่านพิธีการตรวจของ จนท.ขากลับจึงต้องลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนเข้าเมืองเพื่อกลับไปทำงานใน กทม.
จนท.จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมรถยนต์กระบะของกลาง ส่งให้ สว.สอบสวน.สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดำเนินคดี นายสุภาพ พรม ผู้ขับขี่ชาวเขมรข้อหา”ซ่อนเร้น ช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่รู้ว่าเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วน 6 แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ตั้งข้อหา” มีความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวไม่เข้าออกตามช่องทาง,ไม่ยื่นรายการไม่ผ่านการตรวจและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด พร้อมเร่งสอบสวนขยายผลจับกุมนายทุนและเจ้าของรถมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี