10ข้อเรียกร้อง
‘วันแรงงาน’ปี2562
ชี้ไร้ฝีมือ-ไม่พัฒนา
หนี้พุ่ง1.5แสน/ครัว
เปิด 10 ข้อเรียกร้อง “วันแรงงานแห่งชาติ 2562” จี้ ปฏิรูปประกันสังคม นักวิชาการด้านแรงงาน ชี้แรงงานไร้ฝีมือ ขาดการพัฒนา แรงงานสูงวัย ด้านรัฐบาลจัดงานฯที่ศูนย์เยาวชนฯ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง“นายกฯ”จะมาเปิดงาน ส่วน“คสรท.-สรส.”แยกจัดที่โกดังท่าเรือฯ หอการค้าไทย คาดวันแรงงานปีนี้ ใช้จ่ายพุ่ง2.2พันล้าน พบส่วนใหญ่หนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย1.58แสนบาท ต่อครัวเรือน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับข้อเรียกร้อง วันแรงงานแห่งชาติปี 2562 ที่ตัวแทนฝ่ายลูกจ้างจะยื่นให้กับรัฐบาลมีจำนวน10 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 เรื่องการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และฉบับที่ 98 เรื่องการเจรจาต่อรอง 2.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการนำร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ...ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านประชาวิจารณ์มาแล้วเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในรัฐสภาโดยเร่งด่วน 3.ขอให้รัฐบาลแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยกำหนดการเกษียณอายุของลูกจ้างอยู่ที่ 60 ปีในกรณีลูกจ้างมีอายุ 55 ปีประสงค์จะลาออกจากการเป็นลูกจ้าง ให้นายจ้างอนุญาตให้ลาออกได้ โดยได้รับสิทธิ์ที่ประโยชน์เช่นเดียวกับลูกจ้างที่เกษียณทุกประการ และให้กระทรวงแรงงานดำเนินการหามาตรการให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541 ตามมาตรา 11/1 อย่างเคร่งครัด
4.ให้รัฐบาลปฏิรูป แก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ประกันสังคมดังนี้ปรับฐานการรับเงินบำนาญโดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่5,000บาทกรณีผู้ประกันตนเกษียณอายุและรับบำนาญแล้ว เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ต่อ ให้มีสิทธิรับเงินบำนาญต่อไป และ หรือผู้ประกันตนที่รับบำนาญชราภาพ ให้คงสิทธิ์ไว้3 กรณีได้แก่การรักษาพยาบาล ทุพพลภาพและค่าทำศพ เหมือนเดิมในกรณีที่ผู้ประกันตนผลสภาพจากมาตรา 33และประกันตนต่อ มาตรา 39 การคำนวณเดิมค่าจ้าง60เดือน เป็นเงินค่าทดแทนต่างๆขอให้ใช้ฐานค่าจ้างจาก มาตรา33 เพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลผู้ประกันตนมาตรา40 เหมือนผู้ประกันตนตาม มาตรา33 และมาตรา 39 ขยายอายุผู้ประกันตนจาก10-60 ปี ขยายเป็น 15-70 ปีเพื่อให้เข้ากับสังคมผู้สูงอายุและในกรณีที่ผู้ประกันตน มาตรา 40 เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดความเหลื่อมล้ำให้รวมทางเลือกที่1และทางเลือกที่2เป็นทางเลือกเดียวกัน 5.ให้รัฐบาลรวมกองทุนเงินทดแทนกับกองความปลอดภัยแรงงาน และยกระดับเป็นกองความปลอดภัยแรงงาน
6.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ พระราชบัญญัติ กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาต่อรัฐสภาโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกองทุนของลูกจ้าง ขอให้รัฐบาลส่งเสริมการออมของลูกจ้างในรูปแบบสหกรณ์ออมทรัพย์ในทุกสถานประกอบการ7.ของให้รัฐบาลออกกฎหมายคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบและมีสิทธิจัดตั้งองค์กรได้ 8.ขอให้รัฐบาลจัดระบบสวัสดิการหรือกองทุนสวัสดิภาพของรัฐวิสาหกิจให้กับพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทั้งที่ยังมีสถานภาพเป็นพนักงาน และที่พ้นสภาพความเป็นพนักงานให้ได้รับไม่น้อยกว่าลูกจ้างภาคเอกชน ที่ได้รับตามระบบประกันสังคมมาตรา 33และมาตรา 39 9.ให้กระทรวงแรงงานปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ตามมาตรา 74 รัฐเพิ่งจัดให้มีระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และ10. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติปี 2562
ชี้แรงงานไทยไร้ฝีมือ-ขาดพัฒนา
ด้านนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยและนักวิชาการด้านแรงงานกล่าวถึงปัญหาแรงงานไทยว่าขณะนี้แรงงานไทยตกอยู่ในสภาวะ3ประการคือ1.แรงงานไร้ฝีมือ ขาดการพัฒนา ทำให้ต้องการแรงงานอีกประเภทหนึ่งซึ่งไม่ใช่แรงงานประเภทเดิมและอีก 5-10ปีด้วยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ แรงงานจะตกงานมากขึ้นและทางด้านรัฐบาลก็ไม่ได้เตรียมการรับรองเรื่องเหล่านี้ไว้ แรงงานควรจะต้องมีการพัฒนาทักษะใหม่ๆเพิ่มทักษะให้สูงขึ้นสามารถเป็นแรงงานที่แข่งขันกับประเทศที่เป็นอุตสาหกรรมหลักๆได้อาทิ เกาหลี จีน 2.กำลังเข้าสู่แรงงานสูงวัย ส่วนมากแรงงานอยู่ในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป อยู่ในวัยมีครอบครัวเช่นพบว่าส่วนมากมีความยากลำบาก แม้ว่าจะได้ค่าจ้างเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำ แต่รายได้นั้นเพียงพอสำหรับเลี้ยงคนแค่คนเดียวเท่านั้นและค่าจ้างไม่เพียงพอต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตคนงานได้และ3.เข้าสู่ยุคใช้แรงงานหุ่นยนต์ ธุรกิจต้องการเอาตัวรอด ทั้งวิธีการลดต้นทุนโดยการหันมาใช้แรงงานต่างด้าวและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น ดังนั้นมองว่าในอนาคตคนไทยจะตกงานมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อลดลงตามไปด้วย เช่นนี้จะลากจูงเศรษฐกิจได้อย่างไร เพราะปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลากจูงเศรฐกิจมาจากกำลังซื้อดังนั้นสภาวะ 3 ประการนี้ จึงถือว่าเป็นกับดักแรงงานทางเศรษฐกิจ
รัฐจัดงาน’ไทย-ญี่ปุ่น’ดินแดง
ในส่วนของรัฐบาล โดยกระทรวงแรงงานซึ่งมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงานได้เตรียมจัดงาน”วันแรงงานแห่งชาติ”ประจำปี2562วันที่1พ.ค.นี้ โดยคณะกรรมการจัดงานจาก 15 สภาองค์การลูกจ้างและสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และกลุ่มแรงงานนอกระบบ ณ อาคารกีฬาเวสน์2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวปราศรัยและพบปะผู้ใช้แรงงานด้วย ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ใช้แรงงานและลูกจ้างจะนัดรวมกันช่วงเช้า ที่สนามกีฬากองทัพบก ถนนวิภาวดี ก่อนจะเดินขบวนมายัง อาคารกีฬาเวสน์2 ศูนย์เยาวชนฯไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง
กลุ่มแรงงานแยกจัด”เมย์เดย์”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าขณะที่ ทางกลุ่มแรงงานนำโดย คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.)พร้อมภาคีเครือข่ายได้แยกจัดงานอีกเวทีที่โกดังท่าเรือแห่งประเทศไทยโดยใช้ชื่องาน“สามัคคีกรรมกร ต้านทุนนิยมครอบโลก สร้างสังคมใหม่ประชาธิปไตยประชาชน”ซึ่งในงานมีกิจกรรมอาทิขบวนแรงงานวันกรรมกรสากล2019 การกล่าวถึงสถานการณ์ทั่วไปของผู้ใช้แรงงาน เวทีปราศรัย โดยนักวิชาการด้านแรงงาน การปราศรัยของผู้นำแรงงาน และการประกาศเจตนารมณ์โดยประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย
พบหนี้สินเพิ่ม1.58แสนบ.ต่อครัว
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ทำการสำรวจ“สถานภาพแรงงานไทย:กรณีศึกษาผู้มีรายได้ ต่ำกว่า15,000บาท” จาก 1,200ตัวอย่างทั่วประเทศ ในกลุ่มอาชีพข้าราชการ รับจ้าง พนักงานเอกชนรัฐวิสาหกิจและรับจ้างรายวันพบว่าส่วนใหญ่จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 10,000-15,000บาท โดยสัดส่วนร้อยละ86.2ไม่มีเงินออม ทำให้แรงงานถึงร้อยละ95 มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่อยู่อาศัยและยานพาหนะ โดยเฉลี่ยจำนวนหนี้สินต่อครัวเรือนประมาณ 158,000บาท ขยายตัว เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ15เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังมีสัดส่วนการกู้เงินในระบบสูงกว่าซึ่งต้องผ่อนชำระประมาณเดือนละ 7,200 บาท
และในช่วง1ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงเจอปัญหาผิดนัดชำระหนี้เพราะมีคาใช้จ่ายเดือนชนเดือน และรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จากราคาสินค้าและค่าครองชีพที่สูงขึ้นรวมทั้งยังมองว่าเศรษฐกิจในประเทศยังทรงตัว ทั้งนี้ แรงงานส่วนใหญ่ เห็นว่าค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบัน มีความเหมาะสมในระดับปานกลางเท่านั้นจึงอยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้จะไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ แต่อย่างน้อยก็ปรับเพิ่มให้เท่ากับค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทางและราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น
คาดใช้เงินสะพัด2.2พันล้าน
ส่วนกิจกรรมในช่วงวันแรงงานจะไปท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานแรงงาน ดูหนัง สังสรรค์และไปซื้อของ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,164บาท ทำให้คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายในวันแรงงานปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2,232ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยยังต้องติดตามประเด็นภาระหนี้ต่อครัวเรือน ที่แม้จะยังมีสัดส่วนการกู้ยืมในระบบที่สูงกว่า แต่เริ่มมีการกู้นอกระบบมากขึ้นจากปีก่อนหน้า ที่ร้อยละ 34 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 41.8 ในปีนี้ เนื่องจากแรงงานมีการกู้ในระบบเต็มแล้ว จากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังพอดีกับรายจ่าย หรือ รายได้ยังน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ยังต้องกู้ยืมเงิน
ซึ่งรัฐบาล ควรแบ่งเบาภาระค่าครองชีพเช่นการปรับโครงการธงฟ้าเฉพาะในกลุ่มที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อแรงงาน
ลูกจ้างเข้าใจนายจ้างมากขึ้น
จากผลสำรวจแรงงานที่ออกมา ถือว่าปีนี้แม้ลูกจ้าง ยังต้องการค่าจ้างแรงงานเพิ่ม แต่ทุกคนก็เข้าใจนายจ้างมากขึ้น เพราะหากปรับค่าจ้างแรงงานเพิ่มจะกระทบต่อนายจ้างและไม่เป็นผลดีกับลูกจ้างหากให้ออกจากงานการหางานใหม่จะลำบากมากในช่วงนี้ แต่ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ที่คาดว่า จะได้ภายในสิ้นปีนี้ ช่วยดูแลเรื่องค่าแรงงานและสวัสดิการอื่น ๆดังนั้นหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก น่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 3.2-3.3ซึ่งอยู่ในช่วงซึมลงจากหลายสาเหตุ ทำให้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย โดยใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่เมื่อทุกอย่างดีขึ้นครึ่งปีหลังมีรัฐบาลใหม่ เศรษฐกิจน่าจะเติบโตถึงร้อยละ4 ทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 3.5-3.8และยังมองว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านด้านการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยผ่านมาตรการต่างๆ อย่างเหมาะสมกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี