พายุกระหน่ำบุรีรัมย์
ถล่มงานกีฬา อบต.
ชาวบ้านเจ็บ6สาหัส1
พิษวาตภัย30จว.อ่วม
ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบวาตภัย 30 จังหวัด บ้านพัง 3.4 พันหลัง ประสานจังหวัดเร่งช่วยเหลือสำรวจ ส่วนที่จ.บุรีรัมย์พายุฤดูร้อนรุนแรงซัดต้นไม้หักโค่นทับรั้วรพ.สต.สะแกซำ พังเป็นแถบ บ้านเสียหายอื้อ หลังจากเกิดพายุฝนถล่มงานกีฬา อบต. ทำให้เต็นท์นับสิบหลัง ข้าวของปลิวกระจัดกระจาย ลมหอบขาเต็นท์โดนชาวบ้านเจ็บ 6 สาหัส 1 รถพัง 6 คัน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงสรุปสถานการณ์พายุฝนลมกรรโชกแรงจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 25 - 29 เมษายน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 30 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี นครพนม สุราษฎร์ธานี หนองบัวลำภู พิษณุโลก ปทุมธานี แพร่ ตราด อุตรดิตถ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ สระบุรี อ่างทอง เลย ลพบุรี อุบลราชธานี สกลนคร อุดรธานี ร้อยเอ็ด พะเยา อุทัยธานี ขอนแก่น ลำปาง ชัยนาท นครสวรรค์ สุรินทร์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ กำแพงเพชร และเพชรบุรี รวม 78 อำเภอ 175 ตำบล 395 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 3,459 หลัง ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ที่จ.ลำปางและสุรินทร์
ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป
ต้นไม้โค่นทับรั้วรพ.สต.สะแกซำพัง
ขณะที่สถานการณ์พายุฝนลมแรงยังคงเกิดขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อเนื่อง ล่าสุด พายุพัดกระหน่ำในต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์อย่างหนัก โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สะแกซำ พายุพัดต้นไม้ขนาดใหญ่ 2 ต้นโค่นทับรั้วกำแพงได้รับความเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายนอกจากนั้น แรงลมยังพัดหลังคาบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เสียหายหลายหลัง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลสะแกซำ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานทางอำเภอ และจังหวัด พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป
พายุถล่มงานกีฬาอบต.เจ็บ6รถพัง6คัน
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฝนและลมพัดกระหน่ำรุนแรง ระหว่างแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดประจำตำบล ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้เต็นท์ 13 หลัง ข้าวของถูกแรงลมพังปลิวกระจัดกระจาย สร้างความแตกตื่นตกใจให้ผู้มาร่วมงาน และแข่งกีฬาภายในงาน ต่างพากันวิ่งหาที่หลบกันจ้าละหวั่น แรงลมพัดเต็นท์ทุกหลังปลิวขึ้นไปกลางอากาศ และขาเหล็กของเต็นท์ปลิวไปกระแทกรถยนต์ที่จอดอยู่รอบบริเวณการจัดงาน จนกระจกหน้ารถแตกเสียหาย 6 คัน ทั้งนี้ ขาเต็นท์ยังปลิวไปโดนประชาชนที่อยู่ภายในงานกีฬาได้รับบาดเจ็บ 6 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ นางสายฝน ขำวงค์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.หัวถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ใบหน้าอย่างรุนแรง ซึ่งหน่วยกู้ภัยฯ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ นอกจากนี้ ยังเกิดต้นไม้หักโค่นล้มขวางถนนหน้า อบต.ด้วย ทำให้รถสิบล้อ ซึ่งเบรกและหักหลบกะทันหันเสียหลักตกถนน และยังมีรายงานบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอีก 6 หมู่บ้านด้วย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย
เลยแล้งวิกฤติขาดน้ำกินน้ำใช้
อีกด้านหนึ่ง มีประชาชนเดือดร้อนจากสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ส่งผลให้หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ เช่นที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคอย่างหนัก โดยเฉพาะที่หมู่บ้านเก่า ต.นาหอ ชาวบ้านเดือดร้อน 300 ครัวเรือน น้ำประปาหมู่บ้านไม่ไหลมานานกว่า 3-4 สัปดาห์แล้ว ซึ่งทาง อบต.นาหอนำรถบรรทุกน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอด่านซ้ายไปแจกจ่ายน้ำให้ประชาชน แต่ทำได้เพียงวันละ 5-6 เที่ยว หรือเพียงวันละ 30 ครัวเรือนเท่านั้น หลังทราบข่าว หลายหน่วยงานร่วมกันนำน้ำเข้าแจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
ด้านนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า ที่หมู่บ้านเก่า ตำบลนาหอ ซึ่งก่อนนี้ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 300 ครัวเรือน น้ำประปา จากการประปาด่านซ้าย ที่จ่ายน้ำออกมาจากตัวอำเภอด่านซ้าย ห่างออกมาประมาณ 6 กิโลเมตร ไม่ไหลมาหลายวันว่า ได้ไปรับฟังปัญหาและหารือกับเจ้าหน้าที่ ประปาอำเภอด่านซ้าย ซึ่งทราบสาเหตุ ว่าในช่วงก่อนนี้ ระบบวาล์วประปา ที่จ่ายน้ำจากอำเภอด่านซ้ายไปยัง หมู่บ้านเก่านั้น มีปัญหา เลยทำให้ระบบความดันไม่สวามารถส่งน้ำไปถึงได้ ซึ่งขณะนี้กำลังแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แม่ฮ่องสอนฝุ่นพิษพุ่งอีกระลอก
ส่วนสถานการณ์ฝุ่นหมอกควันในภาคเหนือ วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เผยผลตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5เฉลี่ย 24 ชั่วโมงในจ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” ส่วนค่า PM10 วัดได้ 131 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงได้ขอความร่วมมือกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกชุมชนขอความร่วมมือลูกบ้านงดเผาที่โล่งทุกพื้นที่ เนื่องจากส่งผลต่อการสะสมฝุ่นควันในบรรยากาศ ซึ่งอาจจะทำให้คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานได้ คุณภาพอากาศบริเวณ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยค่าฝุ่นเริ่มเกินค่ามาตรฐานตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน เป็นต้นมา และสอดคล้องกับจุดฮอทสปอตที่ดาวเทียมตรวจจับได้ในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่พบจุดความร้อน หรือจุดฮอทสปอต จำนวนมาก หลังจากที่ได้ลดลงอยู่ช่วงหนึ่งในระยะสั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี