หากพูดถึงกล้วยจะเห็นว่าเป็นผลไม้ที่สำคัญของเขตร้อนและนับเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีความหลากหลายของพันธุ์สูง แต่ละพันธุ์ต่างก็มีลักษณะโดดเด่นของตนเอง ตัวผมเองมีความผูกพันกับกล้วยมาตั้งแต่เมื่อยังเป็นเด็กน้อย ผมยังจำรสชาติของกล้วยน้ำว้าขูดบดผสมข้าวที่คุณแม่ทำให้ทานได้อยู่เลย สำหรับเด็กรุ่นผมรับรองได้เลยว่าเติบโตมากับกล้วยน้ำว้ากันทุกคน และทุกคนก็แข็งแรงกันดี ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมอะไรกันอีก แสดงว่าในกล้วยต้องมีคุณค่าดีๆ ซุกซ่อนอยู่ นอกจากนี้สมัยที่ผมยังเด็กก็ยังไม่มีขนมถุงเหมือนเช่นเด็กในยุคปัจจุบัน ดังนั้นขนมที่ทำจากกล้วยจึงเป็นขนมที่ผมชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นขนมกล้วย กล้วยไข่เชื่อม กล้วยแขก หรือข้าวต้มมัดไส้กล้วย สำหรับผมแล้วกล้วยจึงเป็นกลิ่นอายความสุขในอดีตที่ยากจะลืมเลือน
การใช้ประโยชน์จากกล้วยของคนไทยเรามีความอัศจรรย์มาก ทุกส่วนของกล้วยสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นลำต้น ปลี ใบ ก้านใบ ผล หรือ แม้แต่เส้นใยจากกาบกล้วย เรียกว่าเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รูปแบบการจำหน่ายก็แตกต่างไปจากอดีต กล้วยยุคนี้ไม่ต้องซื้อเป็นหวี สามารถซื้อเป็นลูกในราคาที่ up ขึ้นมาตามสถานที่จำหน่ายได้อย่างน่าตกใจ แต่ผมยังแปลกใจว่างานวิจัยและพัฒนาด้านกล้วยของไทย ไม่โดดเด่นเท่าใดนัก หากจะสอบถามข้อมูลการเขตกรรม ข้อมูลการดูแลรักษา การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของกล้วยแต่ละพันธุ์ ยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจน รวมทั้งคุณค่าทางโภชนาการ คุณค่าทางเภสัชวิทยา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ยังไม่ได้กระจ่างชัด ไม่มีการจัดทำเป็นชุดความรู้ที่สมบูรณ์พร้อมใช้ได้เลย
จากที่กล่าวมา การใช้ประโยชน์จากกล้วยและการปลูกการดูแลรักษายังคงใช้ชุดความรู้เดิมๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ออกมา ปัญหาเดิมๆของกล้วยจึงยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการยืดอายุหลังการเก็บเกี่ยว การทำให้เปลือกกล้วยหนามากขึ้นเพื่อประโยชน์ในการขนส่ง การสกัดสารสำคัญจากส่วนต่างๆของกล้วย เอาง่ายๆ ความภาคภูมิใจในการส่งออกกล้วยหอมทองไปญี่ปุ่นของสหกรณ์การเกษตร ในอดีตเป็นอย่างไร ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น ไม่มีการขยายตัวออกไปแต่อย่างใด แสดงว่าจะต้องมีเหตุปัจจัยอันใดซุกซ่อนอยู่เป็นแน่ จึงทำให้การขยายตัวดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หรือบางทีอาจติดกับดับว่าเป็นเรื่องกล้วยๆ เลยไม่ได้คิดว่าจะต้องทำอะไร เหมือนกับการบริหารงานกระทรวงเกษตรฯ หลงว่าทักษะการบริหารเป็นเลิศ ผลของงานจึงวนๆ ไป อย่างที่เป็นอยู่
หากมองในด้านบวก ประเทศไทยเราเป็นแหล่งพันธุกรรมกล้วยที่มีความหลากหลายมาก ผมจำได้ว่าสมัยผมทำหน้าที่เป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เคยให้สถานีทดลองพืชสวนท่าชัยในยุคนั้น รวมรวมพันธุ์ของกล้วยในประเทศไว้ ณ เวลานั้นเห็นว่ารวบรวมได้กว่า 200 พันธุ์ ปัจจุบันผมเองก็ไม่ได้ติดตามว่ามีการนำแหล่งพันธุกรรมเหล่านี้มาใช้ประโยชน์หรือไม่อย่างไร การใช้ประโยชน์จากแหล่งพันธุกรรมที่มีอยู่ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเร่งทำการศึกษาและพัฒนา ความหลากหลายของพันธุ์พืชเหล่านี้เป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราได้รวบรวมไว้ให้ เราจะนำมาใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดขึ้นกับการวิจัยและพัฒนา ซึ่งหมายถึงความรู้ ความสามารถของคนรุ่นปัจจุบัน และต้องตระหนักเสมอว่าในยุคสมัยที่เรียกว่ายุคดิจิทัล หากออกตัวช้า บางทีอะไรที่ควรเป็นของเราอาจกลายเป็นของคนอื่น ประเทศอื่นก็เป็นได้ อย่ามัวแต่ชะล่าใจว่าเป็นของตาย เป็นเรื่องกล้วยๆ กันอีกเลย
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี