"กฤษฎา"ส่งไลน์ด่วน เร่งกลไกปฏิรูปเกษตรแผนการผลิตใหม่ของประเทศ เชื่อมโยงทุกกระทรวง หาช่องทางรองรับผลผลิต ลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด ลดพื้นที่สวนยางพาราหรือสวนปาล์ม ไปปลูกกล้วยหอม กาแฟ หรือพืชผัก
1 พ.ค.62 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ส่งไลน์ด่วนเรื่อง ข้อแนะนำในการทำงานตามภารกิจและบทบาทใหม่ให้ประสบความสำเร็จ (Coaching Tips) ถึงปลัดกระทรวงฯและผู้บริหารทุกกรม รวมทั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าฯนายอำเภอทุกจังหวัด
ตามที่ได้กำหนดให้หน่วยงานในสังกัด กษ.ในพื้นที่และในส่วนกลางได้ปรับภารกิจและบทบาทใหม่ให้ครอบคลุมทั้งงานด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและงานด้านการประสานงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนเพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลผลิตหรือมีตลาดรองรับผลผลิตซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำที่ทำให้เกษตรกรมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือและสนับสนุนงบประมาณจำนวนมากในการพยุงราคาสินค้าเกษตรในรูปแบบโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาภาระการเงินและการคลังของประเทศนั้น
รมว.กษ.ขอทบทวนแนวทางและวิธีการทำงานดังกล่าวข้างต้นซึ่งได้ชี้แจงผ่านการประชุมทางไกล ผ่านระบบ Web Conference ไปทุกจังหวัดแล้วอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
1.ขอให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดร่วมกับเกษตรจังหวัดไปขอพบ ผวจ.ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) ตาม พ.ร.บ.เศรษฐกิจการเกษตร พ.ศ.2522 เพื่อชี้แจงแนวทางการทำงานตามภารกิจและบทบาทใหม่ของหน่วยงานในสังกัด กษ.เพื่อให้ ผวจ.ได้พิจารณาสนับสนุนแนวทางการทำงานดังกล่าวซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของหน่วยงาน กษ.ในจังหวัดได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนในจังหวัดมากขึ้น รวมทั้ง ผวจ.อาจสนับสนุนงบประมาณพัฒนาจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการและหรือจากองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) มาใช้สนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจและบทบาทใหม่ของหน่วยงาน กษ.ภายในจังหวัดได้ด้วย
2.เนื่องจากคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) มีองค์ประกอบที่มาจากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน จึงขอให้ใช้การประชุม อ.พ.ก.ในการตกลงกันเพื่อจัดกลุ่มงานและมอบหมายภารกิจให้หน่วยงานต่างๆ ไปปฏิบัติในรูปคณะทำงานเฉพาะกิจ (Task Force) ดังนี้
2.1 คณะทำงานการส่งเสริม สนับสนุนการผลิต และจัดทำข้อมูลด้านการผลิต (Supply Side) มีหน้าที่ในการวางแผนการผลิตและส่งเสริมรวมทั้งการสนับสนุนการผลิตของเกษตรกรในพื้นที่ตามความต้องการของตลาดโดยมอบหมายให้เกษตรจังหวัด/ปศุสัตว์จังหวัด/ประมงจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักโดยมีหน่วยงานสนับสนุน เช่น พัฒนาที่ดิน/ชลประทาน/ปฏิรูปที่ดิน/ศูนย์หรือสถานีในสังกัดกรมวิชาการเกษตร/กรมการข้าว/กรมฝนหลวงและการบินเกษตร/กรมหม่อมไหมซึ่งมีที่ตั้งในพื้นที่เป็นหน่วยสนับสนุนในการส่งเสริมและวางแผนรวมทั้งการสนับสนุนการผลิตด้วย
2.2 คณะทำงานการประสานงานด้านการตลาด (Demand Side) มีหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนเพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรของตลาดรวมทั้งแนะนำและอำนวยความสะดวกหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนให้เข้ามาซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยมอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัด/สหกรณ์จังหวัดและสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 12 เขต ทำหน้าที่ประสานงานกับ พณ./นพ.สสจ./ผอ.ทัณฑสถาน/ผู้บริหารสถาบันการศึกษา/ผบ.กกล.ทหาร&ตำรวจและภาคเอกชนเช่น หอการค้า/สภาอุตสาหกรรม/ห้างสรรพสินค้า (Modern Trade)/ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าของกลุ่มค้าปลีกเอกชน (DC)/ผอ.นิคมอุตฯ/เจ้าของโรงงานที่มีคนงานจำนวนมากเพื่อให้พิจารณารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปใช้ในหน่วยงานหรือนำไปจำหน่ายในตลาดภายในประเทศหรือส่งออกต่างประเทศด้วย
3.ในระยะเริ่มต้นของการดำเนินงานตามภารกิจใหม่นี้ ขอให้เกษตรจังหวัดได้แนะนำและประสานงานให้สมาชิกกลุ่มเกษตรกรสมัยใหม่ (Young Smart Farmers) ที่เป็นบุตรหลานของเกษตรกรในพื้นที่และผ่านการอบรมจากสำนักเกษตรจังหวัดแล้วให้เข้ามามีบทบาทร่วมในการทำหน้าที่ทั้งฝ่ายส่งเสริมการผลิตและฝ่ายประสานงานระหว่างกลุ่มเกษตรกรกับหน่วยงานรัฐหรือภาคเอกชนที่เข้ามารับซื้อผลผลิตในพื้นที่ด้วย
4.ในการทำงานตามภารกิจและบทบาทข้างต้นเมื่อ อ.พ.ก.สามารถประสานและเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายเกษตรกรผู้ผลิตกับฝ่ายการตลาดได้แล้ว ก็อาจจะพัฒนาระบบการผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ให้สอดคล้องหรือสนองตอบต่อนโยบาย "การตลาดนำการผลิต" รวมทั้งการนำมาขยายผลหรือต่อยอดโครงการและแผนงานการเกษตรสำคัญๆ ซึ่ง รมว.กษ.ได้สั่งการหรือมอบหมายไปแล้วให้ต่อเนื่องกันได้ดังนี้
4.1 ขอให้คณะทำงานการส่งเสริม สนับสนุนการผลิต และจัดทำข้อมูลด้านการผลิต (Supply Side) แนะนำเกษตรกรทำการเกษตรหรือผลิตตามความต้องการของตลาด หรือผลิตให้ได้ตามคุณสมบัติที่ผู้รับซื้อกำหนด เช่น การเกษตรปลอดภัย (GAP) หรือเกษตรอินทรีย์ (Organic) หรือในกรณีที่ผู้ซื้อหรือตลาดต้องการสินค้าเกษตรจำนวนมากและตกลงทำสัญญารับซื้อระยะยาวก็อาจสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันทำการเกษตรในรูปวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Enterprise) หรือใช้เครื่องจักรกลหรือเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทำเกษตรแม่นยำ(Precision) เข้ามาใช้ในกลุ่มวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต
4.2 ขอให้คณะทำงานการประสานงานด้านความต้องการของตลาด (Demand Side) พิจารณาว่าหากมีกลุ่มเกษตรกรหลายกลุ่มและหรือมีการผลิตได้จำนวนมากก็ให้แนะนำหรือประสานงานกับภาคเอกชนให้เข้ามาตั้งโรงงานรับซื้อผลผลิตหรือตั้งโรงงานแปรรูปหรือโรงถนอมอาหารภายในพื้นที่ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดและหรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัดประสานงานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในพื้นที่ให้เข้าไปพิจารณาสนับสนุนทุนในรูปเงินกู้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรเพื่อขยายการผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการของตลาดที่มากขึ้นด้วย
5.เมื่อกลุ่มเกษตรกรเริ่มมีความเข้มแข็งหรือผลผลิตเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นแล้ว ขอให้สหกรณ์จังหวัดเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันจดทะเบียนเป็นสหกรณ์การเกษตรหรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อให้มีตัวแทนของกลุ่มเกษตรกรเข้ามาทำหน้าที่ในการติดต่อเพื่อขายผลผลิตกับภาคเอกชนโดยตรงแทนหน่วยงานรัฐต่อไป
6.ขอให้ที่ประชุม อ.พ.ก.จังหวัด นำข้อมูลที่ได้จากคณะทำงานเฉพาะกิจในข้อ 2.1 และ 2.2 ประเมินสถานการณ์และปัญหาการเกษตรของพื้นที่ในด้านต่างๆ เพื่อพิจารณาว่าควรจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตทางการเกษตรของพื้นที่การเกษตรที่ไม่เหมาะสม ไปใช้พื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนที่เกษตร (Agri-Map) หรือลดการทำเกษตรเชิงเดี่ยวไปทำการเกษตรแบบผสมผสานหรือเกษตรทฤษฎีใหม่ตามพระราชดำริหรือลดการทำเกษตรกรรมจากชนิดหนึ่งไปทำการเกษตรชนิดใหม่ที่เป็นความต้องการของตลาดเพื่อลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด (Over Supply) เช่น ลดพื้นที่สวนยางพาราหรือสวนปาล์ม ไปปลูกกล้วยหอม กาแฟ หรือพืชผัก แซมระหว่างแถวต้นยางพารา หรือต้นปาล์ม หรือลดพื้นที่การทำนาปรัง ไปปลูกพืชตระกูลถั่วหรือข้าวโพดอาหารสัตว์ที่ตลาดต้องการ เป็นต้น
7.ในส่วนกลาง นั้น ขอให้ ปล.กษ.จัดกลุ่มงานและมอบหมายภารกิจให้สำนักงานปลัด/กรมหรือหน่วยงานเทียบเท่าและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจรวมทั้งองค์การมหาชนในสังกัด กษ.ให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับภารกิจงานในพื้นที่เพื่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานอำนวยการและสนับสนุนการทำงานในระดับพื้นที่ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยให้แบ่งเป็นกลุ่มงานดังนี้
7.1 กลุ่มงานการวางแผน ส่งเสริม สนับสนุน และรายงานสถานการณ์การผลิตทางการเกษตร ให้มอบหมาย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมงกรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) กรมวิชาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ฯลฯ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ในสังกัด กษ. เช่น สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ทำหน้าที่อำนวยการวางแผน ส่งเสริม สนับสนุน และรายงานสถานการณ์การผลิต (Supply) ของประเทศ ให้สอดคล้องกับความต้องการ (Demand) ของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ
7.2 กลุ่มงานการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้มอบหมายสำนักงานปลัดกระทรวง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศทุกแห่ง ฯลฯ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนในสังกัด กษ. ได้แก่ การยางแห่งประเทศไทย องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย องค์การสะพานปลา และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เพื่อทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และอำนวยความสะดวกรวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มสานพลังประชารัฐ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ค้าสินค้าเกษตรหรืออาหารที่มาจากผลผลิตทางการเกษตร ฯลฯ เพื่อให้ทราบแนวโน้มราคาและความต้องการสินค้าเกษตรของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และหรือมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรและหรือกลุ่มเกษตรกรโดยตรงในราคาที่เป็นธรรมและยั่งยืน
8.ขอให้คณะทำงานเฉพาะกิจในข้อ 2.1 และ 2.2 ที่มอบหมายโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) และกลุ่มงานส่วนกลางในข้อ 7.1 และ 7.2 ที่แต่งตั้งโดย ปล.กษ.รายงานข้อมูลความก้าวหน้าและสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาดทั้งหมด ให้กับ ปล.กษ.โดยขอให้สำนักงานปลัดกระทรวง กษ.ออกแบบรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลและเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้สามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้ในการตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างทันท่วงที
9.ขอมอบหมายให้ ผต.กษ.ทุกเขตได้ไปติดตามการทำงานของหน่วย กษ.ในพื้นที่ว่าได้ดำเนินการตามภารกิจข้างต้นไปแล้วอย่างไรหรือไม่โดยเฉพาะภารกิจตามข้อ 1 และข้อ 2 นั้น ขอให้ตรวจสอบและกำชับเป็นรายจังหวัดว่าหน่วยงาน กษ.ทุกจังหวัดต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2562 ให้จงได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี