6 พ.ค.62 พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ,พ.ต.ท.สุทน ช้างรบ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ธนบดี บุญขวัญ สว.สส.พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุกลางสวนยางพาราหมู่ 4 บ้านวังหิน ต.ทุ่งสัง หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุทน ช้างรบ รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนออกขยายผลล่อซื้อยาบ้าจากแก๊งค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ แต่ขณะเจ้าหน้าที่วางกำลังรอจับกุมโดยการล่อซื้อจากสายลับ ได้มีนายทศพล หรือ บาส จันทร์นวล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเหลืองดำ ทะเบียน กร 4414 นครศรีธรรมราช เข้ามาจอด และมีนายสาโรจน์ หรือ มัน จงจิตร อายุ 35 ปี นั่งหน้าข้างคนขับ และ น.ส.ลักษิกา หรือ ทราย บำเพ็ญ อายุ 29 ปี แฟนสาวนายสาโรจน์ นั่งอยู่เบาะหลัง โดยทั้งสามมาตามที่นัดหมายกับสายลับ
จากนั้นสายลับ จึงเจรจาล่อซื้อยาบ้าจากนายบาส และนายมัน แต่ว่าทั้งสองเกิดไหวตัวทัน จึงนัดเปลี่ยนไปที่อื่นในบริเวณใกล้เคียง แต่ระหว่างที่กำลังเจรจาแก๊งค้ายาเห็นผิดสังเกต นายบาส จึงพยายามขับรถหลบหนี โดยนายสาโรจน์ ที่นั่งหน้าข้างคนขับได้ชักปืนออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทาง โดยขับหลบหนีไปในสวนยางของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและปิดล้อมท่ามกลางความมืด พร้อมยิงตอบโต้เป็นชุด กระสุนเจาะยางล้อรถยนต์ จนล้อหน้าและล้อหลังด้านขวามือแบนติดดิน แต่คนร้ายยังไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ยังพยายามขับเร่งเครื่องหลบหนี ทำให้รถเสียหลักฟาดต้นยางพารา และกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่เจาะเข้าขาขวานายทศพลจนบาดเจ็บ กระดูกแตก ไม่สามารถขับรถต่อไปได้ ก่อนจะโยนห่อยาบ้าทิ้งลงในสวนยาง จึงเข้าจับกุมตัวนายทศพล และ น.ส.ลักษิกา เอาไว้ได้ ส่วนนายสาโรจน์ คนยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่อาศัยจังหวะรถเสียหลักได้ถอดร้องเท้าแตะวิ่งหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืน ตรวจสอบพบรองเท้าแตะ 1 คู่ ของนายสาโรจน์ ตกอยู่ในสวนยาง ห่างจากจุดล่อซื้อไปประมาณ 200 เมตร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทศพล และ น.ส.ลักษิกา มาชี้จุดทิ้งยาบ้าเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าของ น.ส.ลักษิกา ภายในมียาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวนายทศพล ถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ นำตัวไปรักษาโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ และถูกส่งตัวไปผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกที่โรงพยาบาลทุ่งสง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการหลบหนี
ต่อมา พ.ต.อ.โชคดี ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นรถของกลางที่ยึดมาได้ต่อหน้า น.ส.ลักษิกา ผู้ต้องหา พบยาบ้าอีก 34 เม็ด ซุกอยู่ในช่องเก็บของใกล้กับเบาะคนขับ พร้อมอุปกรณ์การเสพยาบ้า จำนวน 1 ชุด จากการสอบสวน น.ส.ลักษิกา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายทศพล หรือ บาส จันทร์นวล ,นายสาโรจน์ หรือ มัน จงจิตร แฟนหนุ่ม นำยาบ้าดังกล่าวมาส่งให้กับลูกค้าตามที่นัดหมายในสวนยางพาราหมู่ 4 บ้านวังหิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นการล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.ลักษิกา เคยถูกจับในคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง
สำหรับประวัตินายทศพล หรือ บาส จันทร์นวล มีประวัติโชกโชนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด เป็นตัวการใหญ่ ระดับสั่งการในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งสง อ.บางขัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ผู้ต้องหารายหนึ่งให้การซัดทอดว่านายทศพล เป็นคนสั่งให้มารับยาบ้าที่มีคนนำมาวางไว้ริมถนนสายทุ่งใหญ่ - วัดขนาน หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จำนวน 4,000 เม็ด เมื่อไม่นานมานี้ ส่วนนายสาโรจน์ เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ใน อ.บางขัน ขณะที่นายทศพล และนายสาโรจน์ มีพฤติกรรมพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา เมื่อนำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จับกุมตัวนายจตุพงษ์ หรือ แอ็ด ศรีเทพ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 6 ต.ทุ่งสัง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมยาบ้า 98 เม็ด ที่ซุกอยู่ในเบาะรถยนต์จอดข้างขนำ พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 4 นัด วางอยู่ในห้องนอน สอบสวนให้การซัดทอดว่า รับยาบ้ามาจากแก๊งนายบาส - นายมัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้ง 3 คน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.วรดิษฐ์ ลีวังศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนนายสาโรจน์ แจ้งเพิ่มอีกข้อหาคือขัดขวางการจับกุมและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสาโรจน์ ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี