วันนี้ (14 พ.ค.62) ที่ สภ.เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับตัวนายเรวัตร หาญสุวรรณ อายุ 34 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวนอร์เวย์ ชื่อนางสาวรีเบคกา คาร์ลเซนท์ อายุ 26 ปี
หลังจากนางสาวรีเบคกา คาร์ลเซนท์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ว่าเมื่อวันที่ 11 พ.ค.62 เวลาประมาณ 03.00 น.ตนได้ถูกชายไทยลวงไปข่มขืนเหตุเกิดภายในซอยตรงข้ามบิ๊กซี สาขาเกาะพะงัน หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดภายหลังจากตนกลับจากการไปเที่ยวที่ฮาล์ฟมูนปาร์ตี้ เนื่องจากกระเป๋าใส่เงินตกหาย ต่อมาได้มีชายไทยขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสอบถามพร้อมอาสาพาไปตามหากระเป๋าเงิน แต่สุดท้ายคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์พาไปข่มขืนภายในซอยตรงข้ามบิ๊กซีดังกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จนสามารถเข้าจับกุมนายเรวัตร หาญสุวรรณ อายุ 34 ปี พร้อมด้วยหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ฟีโน่ ทะเบียน ขนบ 282 สุราษฎร์ธานี ชุดเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่และหมวกแก๊ปที่คนร้ายใช้ในคือก่อเหตุ จากการสอบถามนายเรวัตร หาญสุวรรณ ยอมรับสารภาพว่าภาพในกล้องวงจรปิดเป็นตนเอง และก็เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวในครั้งนี้จริง
ต่อมานายเกรียงไกร วิริยะนนท์ ประธาน กต.ตร.สภ.เกาะพะงัน พร้อมด้วยนายวิชัย คงมั่น นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ได้มอบช่อดอกไม้ขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้ภายใน 24 ชั่งโมง ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับเกาะพะงันอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี