‘ฝน’มา! กรมชลฯใช้‘ทุ่งบางระกำ-เจ้าพระยา’เป็นแก้มลิงรับน้ำหลาก1.5พันล้านลบ.ม.
14 พ.ค.62 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค.62 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 16-19 พ.ค.62 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ยังคงฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้คาดการณ์ว่าประเทศไทยอาจเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงปลายสัปดาห์ที่ 3 ในเดือน พ.ค.62 และอาจจะเกิดฝนทิ้งช่วง ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนตลอดจนฤดูแล้งปีหน้าแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน(14 พ.ค. 62) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 41,075 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 17,156 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกัน 11,170 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,474 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอจนถึงฤดูฝน
ส่วนสภาพน้ำท่าในสายหลักต่างๆ ทางตอนบนของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ปกติค่อนข้างน้อย เฉพาะในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ แม่น้ำปิง บริเวณ อ.บรรพตพิสัย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 5 เมตร , แม่น้ำน่านบริเวณ อ.ชุมแสง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 8 เมตร ไหลมาบรรจบกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 382 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที) ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 8 เมตร โดยกรมชลประทานได้กำชับให้ทุกพื้นที่เตรียมเครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำให้พร้อมใช้งาน เพื่อเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งได้ทันที
ด้านค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังเกิดน้ำทะเลหนุนส่งผลให้ค่าความเค็มที่สถานีสำแล จ.ปทุมธานี เพิ่มขึ้นเป็น 0.20 กรัม/ลิตร ซึ่งเข้าใกล้เกณฑ์เฝ้าระวังที่ 0.25 กรัม/ลิตร กรมฯได้ควบคุมค่าความเค็มจากการรุกตัวของน้ำทะเล โดยเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจาก 90 เป็น 100 ลบ.ม./วินาที พร้อมให้ชะลอการสูบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยผลักดันน้ำทะเลและควบคุมค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนในแม่น้ำป่าสักได้ควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 10 ลบ.ม./วินาที จะไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านสถานีวัดน้ำบางไทร 99 ลบ.ม./วินาที จึงทำให้ค่าความเค็มที่สถานีสำแล ในวันนี้(14 พ.ค.62) ลดลงมาอยู่ที่ 0.17 กรัม/ลิตร ซึ่งไม่มีผลต่อการผลิตประปาและการเกษตรแต่อย่างใด
นอกจากนี้ กรมฯได้กำหนดให้มีการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำให้เร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้เก็บเกี่ยวทันแล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลาก โดยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน จำนวน 1 ทุ่ง คือ ทุ่งบางระกำ พื้นที่ 382,000 ไร่ ปัจจุบันได้ส่งน้ำเพื่อให้เริ่มการเพาะปลูกไปแล้วตั้งแต่ 1 เม.ย.62 เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จก่อนเดือน ส.ค.62 หลังจากนั้นจะใช้พื้นที่ดังกล่าว รับน้ำเข้าทุ่งประมาณกลางเดือน ส.ค.62 สามารถหน่วงน้ำได้ประมาณ 550 ล้าน ลบ.ม. ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง จำนวน 12 ทุ่ง พื้นที่รวมประมาณ 1.15 ล้านไร่ ได้เริ่มการเพาะปลูกแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 62 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จก่อนเดือน ก.ย.62 หลังจากนั้นจะใช้พื้นที่ดังกล่าวรับน้ำเข้าทุ่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.62 เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำหลากในช่วงเวลานั้นๆ โดยจะสามารถหน่วงน้ำได้รวมประมาณ 1,500 ล้าน ลบ.ม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี