นายกฯห่วงเยาวชน
ติดมือถืองอมแงม
ทำสมาธิสั้น-อีคิวต่ำ
“นายกฯ” ห่วงปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ แนะพ่อแม่-ครูช่วยวางแผนใช้ชีวิตให้เหมาะสม ป้องกันภาวะสมาธิสั้น อารมณ์รุนแรง ด้านบช.น.ลุยตรวจจราจรวันแรกหน้าโรงเรียนใหญ่ย่านสีลม หลังจัดระบบรับส่งบุตรหลาน ทำให้เคลียร์รถได้เร็ว เล็งนำแอพฯแจ้งพิกัดมาใช้นัดจุดรับลูกช่วงเลิกเรียน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความเป็นห่วงปัญหาเด็กไทยติดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบได้ตั้งแต่นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงวัยรุ่น โดยกว่าร้อยละ 50 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีการสำรวจหยิบโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแรกหลังตื่นนอน และยังใช้โทรศัพท์เป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนเข้านอน ส่งผลให้เกิดอาการสมาธิสั้น การใช้สมองในส่วนความทรงจำลดลง และ อารมณ์มีแนวโน้มรุนแรงฉุนเฉียวง่ายขึ้น
ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครอง มักระวังป้องกันอันตรายนอกบ้านไม่ให้เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตน แต่อาจมองข้ามภัยจากโทรศัพท์มือถือ ที่คืบคลานเข้ามาถึงในบ้าน แม้กระทั่งในห้องนอน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือกำหนดเวลาให้เด็กเล่นโทรศัพท์ไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง พาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือใช้เวลาร่วมกับครอบครัวมากขึ้น และหมั่นเอาใจใส่ดูแลสอดส่องพฤติกรรมเด็กอย่างใกล้ชิด ถ้าพบมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยา
พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า นายกฯยังเน้นย้ำอีกว่า สัปดาห์นี้โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองและครูต้องตระหนักเรื่องนี้และช่วยเด็กวางแผนใช้ชีวิตทั้งเรื่องเรียนและการพัฒนาทักษะอื่น โดยปัญหาเด็กติดโทรศัพท์นั้นมีให้เห็นจริงในสังคมปัจจุบัน และยังสะท้อนรูปแบบของละครสอนใจ เช่น วัยแสบสาแหรกขาด ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์ได้
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เริ่มเปิดเทอมวันแรกว่า พล.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.)ลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรที่หน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ถนนสาทร และโรงเรียนเซนต์โยเซพคอนแวนต์ ถนนสีลม โดยมี พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.)ดูแลงานจราจรและพล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) ร่วมลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียน
พล.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์กล่าวหลังตรวจพื้นที่ว่า เป็นการตรวจสภาพจราจรและการอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณโรงเรียนใหญ่ทั้ง 2 แห่ง พบว่ามีผู้ปกครองขับรถเข้ามาส่งบุตร-หลานเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรหน้าโรงเรียนทั้ง 2 แห่งบ้างเล็กน้อย แต่สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งว่าสภาพการจราจรโดยรอบโรงเรียนช่วงเปิดภาคเรียนนี้ดีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากมีตำรวจจราจรเข้ามาให้ข้อมูล แนะนำวิธีส่งลูก รวมทั้งโรงเรียนได้ทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง กรณีที่เข้ามาส่งบุตรหลานต้องเตรียมตัวให้พร้อม และมีอาสาสมัครจราจร จิตอาสาเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก รับเด็กและโบกรถหน้าโรงเรียนร่วมกับรุ่นพี่ในโครงการพี่รับน้อง ทำให้การส่งบุตรหลานเป็นไปด้วยความรวดเร็วขึ้น จากการสังเกตการณ์วันนี้แล้ว หลังเด็กนักเรียนเข้าโรงเรียนหมดแล้ว สภาพการจราจรเส้นทางรอบโรงเรียนก็คลี่คลาย
ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวว่า ในการเปิดภาคเรียนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)กำชับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และสน.พื้นที่วางแผนจัดระบบจราจรในเส้นทางรอบโรงเรียนที่คาดว่าจะมีปัญหาการจราจร โดยบริเวณหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ถนนสาทร จะเปิดรีเวิร์สซิเบิลเลนช่วงเวลา 06.00-07.00 น.ตั้งแต่แยกสุรศักดิ์-ถนนปั้นจะมีจุดเบี่ยงเข้าช่องทางปกติให้ประชาชนระยะทางประมาณ 300 เมตรบริเวณถนนปั้น ส่วนบริเวณโรงเรียนอัญสัมชัญ ถนนสีลม จัดระบบการจราจรแบบเดินรถทางเดียวจาถนนด้านถนนสีลมเข้าถนนประมวญเข้าถนนศรีเวียง โดยบังคับให้ผู้ปกครอง ที่เข้ามาส่งนักเรียนขับเข้าด้านถนนประมวญและเลี้ยวขวาเข้าถนนศรีเวียงและเลี้ยวขวาบริเวณ สน.ยานนาวาเพื่อออกแยกสุรศักดิ์-สาทรซึ่งจะทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้หารือกับทั้งสองโรงเรียน เพื่อนำแอปพลิเคชั่นเข้ามาจัดระบบรับ-ส่งลูกหลาน เป็นการแสดงพิกัดผู้ปกครองและเด็กนักเรียน ใช้นัดเวลาเข้ามารับบุตรหลานช่วงเลิกเรียน ซึ่งก่อนเปิดใช้ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองก่อน ป้องกันความสับสน อีกทั้ง ต้องวางแผนจัดระบบการจราจร รองรับแอปพลิเคชั่นที่ที่จะนำมาใช้ ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าใช้เวลาเตรียมการประมาณ 2 เดือน น่าจะเริ่มใช้งานได้เดือนมิถุนายน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี