รับมือ‘นักเรียนนักเลง’! ตร.คุมเข้มจุดปะทะ งัดพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฟันถึงผู้ปกครอง
16 พ.ค.62 พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ปฏิบัติราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ด้วยในช่วงวันที่ 16 พ.ค.62 เป็นต้นไป เป็นช่วงเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน อาจมีกลุ่มนักศึกษา นักเรียน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงก่อเหตุทะเลาะวิวาท มีการใช้อาวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมส่วนรวม สำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ให้เตรียมความพร้อมและป้องกันเหตุ
สำหรับการเตรียมความพร้อมดังกล่าว ประกอบด้วย 1. เพิ่มความเข้มมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษาตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยสั่งการไปแล้ว เช่น จัดทำข้อมูลจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม หรือจุดที่มักจะเกิดเหตุเป็นประจำ จัดทำข้อมูลนักเรียน นักศึกษากลุ่มเสี่ยงให้เป็นปัจจุบัน จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรคอยประสานงานกับสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด จัดสายตรวจเฝ้าระวังและเพิ่มความถี่ออกตรวจตราบริเวณสถานศึกษา ป้ายรถประจำทาง ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ล่อแหลมอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
2.หากเกิดเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น และดำเนินการอย่างเฉียบขาดในทุกฐานความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งนำพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพุทธศักราช 2546 มาบังคับใช้กับบิดา มารดา ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย และ 3.มอบหมายให้ รองผู้บัญชาการ และรองผู้บังคับการ ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม และหัวหน้าสถานี ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี