16 พ.ค.62 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายคำพัน ไชยเพ็งจันทร์ และนางดวงจันทร์ ไชยเพ็งจันทร์ บิดาและมารดาของ นายหัสดีน ไชยเพ็งจันทร์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ปวช.ปี 3 วิทยาลัยการอาชีพพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ถูกพบเป็นศพถูกฆ่าตาย อยู่บริเวณพงหญ้า ภายในสวนยูคาลิปตัส ใกล้สำนักสงฆ์เขาหินด่าง หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัย จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.หญิง ดวงมณี พานนาค สารวัตร(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อให้กองปราบรับทำคดีภายหลังคดีผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า
นางดวงจันทร์ เปิดเผยว่า โดยวันเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียนน้องดีนลูกชายได้ขี่รถ จยย.ไปนั่งดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อนสนิทที่ อ.พนมสารคาม จนกระทั่งประมาณ 4 ทุ่ม พ่อของน้องดีนได้โทรถามว่าอยู่ไหนเพื่อตามให้กลับบ้านเนื่องจากเห็นว่าดึกแล้ว น้องดีนก็บอกว่าอยู่บ้านเพื่อนใกล้จะกลับแล้ว หลังจากนั้นพ่อน้องดีนจึงเข้านอนจนกระทั่งตื่นมาประมาณตี 2 ก็ยังไม่พบน้องดีนในห้องนอน จึงคิดว่าน้องดีนอาจจะเมาเหล้าเลยนอนค้างบ้านเพื่อน ต่อมาช่วงบ่ายของอีกวันเพื่อนของน้องดีนได้มาหาที่บ้าน พร้อมกับถามหาน้องดีนเนื่องจากไม่ได้ตอบไลน์ พ่อจึงบอกให้เพื่อนคนดังกล่าวพาไปบ้านเพื่อนสนิทที่น้องดีนไปนั่งดื่มเหล้าเมื่อไปถึงจึงสอบถามหาน้องดีนซึ่งเพื่อนสนิทได้บอกว่าได้ไปส่งดีนที่แยกไฟแดงก่อนจะแยกย้ายกัน หลังจากนั้นพ่อน้องดีนและตนจึงออกตามหาตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจ โรงพยาบาล ก็ยังไม่พบจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เขาหินซ้อน จนกระทั่งมาพบลูกชายเป็นศพ
“วันนี้เดินทางมาร้องกองปราบเพื่อขอให้รับทำคดีหลังจากน้องดีน ลูกชายได้หายตัวไปกว่า 12 วัน ก่อนจะถูกพบเป็นศพบริเวณพงหญ้า ภายในสวนยูคาลิปตัส ใกล้สำนักสงฆ์เขาหินด่าง หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัย จ.ฉะเชิงเทรา โดยครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ตัวน้องดีนได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับที่บ้านเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ อ.พนมสารคาม ทั้งนี้หลังจากคดีผ่านไปกว่า 3 เดือนยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งๆที่มีการออกข่าวตลอดว่ารู้ตัวคนร้าย ใกล้จะจับตัวคนร้ายได้แล้ว แต่เมื่อโทรไปสอบถามเจ้าของคดีก็ได้แต่บอกจะตามเรื่องให้ ตนรู้สึกว่ามันนานเกินไป ทั้งๆที่พยานหลักฐานบางอย่างสามารถที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แล้ว ทุกวันนี้ตนนอนไม่หลับ หลับตาทีไรก็คิดถึงแต่ลูก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้เสียที” นางดวงจันทร์ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. กล่าวว่า สำหรับที่นายคำพัน ไชยเพ็งจันทร์ อายุ 52 ปี และนางดวงจันทร์ ไชยเพ็งจันทร์ อายุ 46 ปี บิดาและมารดาของนายหัสดีน ไชยเพ็งจันทร์ อายุ 18 ปี ที่ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตอย่างปริศนาอยู่ในบริเวณพงหญ้า ภายในสวนยูคาลิปตัส ใกล้สำนักสงฆ์เขาหินด่าง หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัย จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองปราบให้ช่วยสืบสวนคลี่คลายปมเหตุการเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นตนได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ประสานงานสืบสวนหาเบาะแสการเสียชีวิตกับทางตำรวจท้องที่แล้ว เพื่อช่วยคลี่ปมสงสัยของทางครอบครัวผู้เสียหายชีวิต โดยจะมุ่งเน้นไปที่การสืบหาพยานหลักฐานต่างๆ จากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิดและพยานบุคคล
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลการชันสูตรศพของนายหัสดีนเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย กระดูกต่างๆไม่มีร่องรอยการแตกหัก ส่วนอวัยวะภายในทราบว่าบางส่วนมีการย่อยหรือเน่าสลายตามธรรมชาติ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายหัสดีน ว่าเป็นการเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมหรือไม่ อีกทั้งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนหน้าจะเสียชีวิตนั้น นายหัสดีน ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอกเพียงลำพังและไม่มีบุคคลหรือรถต้องสงสัยขับติดตาม รวมถึงจากการสอบปากคำกลุ่มเพื่อนของนายหัสดีน ที่อยู่ด้วยกันก่อนหน้าจะเสียชีวิตก็ยังไม่พบความผิดปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี