15 พ.ค.62 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัช อาคาร วช.1 สำนักงานวิจัยแห่งชาติ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน มาทอล์คกัญสนั่นเมือง 2 เพื่อเจาะลึก เกี่ยวกับกัญชาไทย ในการปลูก สกัด และรักษา
ผศ.ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า กัญชาเป็นพืชที่มีคุณค่า และโทษอย่างร้ายแรง และประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะกัญชามีประวัติการใช้เป็นยารักษาโรคอย่างยาวนาน อย่างที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล หลักฐานตำราการแพทย์จีน และในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยว่า กัญชาสามารถเป็นยารักษาอาการปวดและรักษาโรคมะเร้งได้ แต่กัญชายังเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 มีอัตราโทษ ปรับ / จำคุก ซึ่งในหลายๆประเทศได้มีการปลดล็อคกัญชา ผ่อนปรนอนุญาตให้ประชาชนใช้กัญชาในการแพทย์ได้
โดย งาน มาทอล์คกัญสนั่นเมือง 2 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเจาะลึก กัญชาไทย ตั้งแต่การปลุก การสกัด และการรักษา การสร้างความเข้าใจเพื่อยกระดับกัญชาจากยาเสพติดเป็นยารักษาโรค การใช้กัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยโดยกำกับดูแล และ เพื่อหาแนวร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ทันต่อการพัฒนากัญชาเพื่อสุขภาพและประโยชน์ทางการแพทย์
โดยมี นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มามอบความรู้เรื่องกฏหมาย และแนวทางการปลดล้อคกัญชา ดร.เอมอร เทียนอภิรักษ์ Dr.Aimon Kopera ผ.อ.และหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์สุขภาพสถาบัน IRIWP ( USA ) ร่วมให้ความรู้การ แบ่งชนิดสารในกัญชา กัญชง และการสกัด รวมถึงวิธีการใช้สารสกัดจากกัญชา และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านเข้าร่วมบรรยาย
โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวมากมาย รวมถึงมีการแสดงของศิลปินแห่งชาติ อย่าง อ.ธนิตย์ สีกลิ่นดี และ คุณ ติ้ก ชีโร่ มาร่วมมอบความบันเทิงให้ผู้เข้าอบรมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี