ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกวุฒิสภาใหม่จำนวน 250 คน ที่ว่ากันว่า คสช. เป็นผู้คัดเลือกทั้งหมด แรกทีเดียวก็ออกจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ทำใจให้ยอมรับได้ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป
แต่การที่รัฐมนตรีหลายคนลาออก เพื่อไปเป็นสมาชิกวุฒิสภานี่ รู้สึกรับไม่ได้ คนดี คนเก่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ในบ้านนี้เมืองนี้ ที่จะคัดเลือกมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา แค่เพียง 250 คน ไม่มีคนอื่นอีกแล้วหรือ....หรือนี่คือการสืบทอดอำนาจที่เขาว่ากันจริงๆ...
เข้าใจได้..ถึงเหตุผลในการหาคะแนนเสียงสนับสนุนการเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล แต่จะทำอะไรให้เนียนกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร....ไม่น่าเชื่อว่ากลยุทธ์ที่แบไต๋กันโต้งๆ แบบนี้จะมีให้เห็นกันในยุคและสถานการณ์แบบนี้
ไม่น่าเชื่ออีกว่า ลักษณ์ วัจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะอยู่ในกลุ่มลาออกไปเป็น สว. ด้วยเช่นกัน รัฐมนตรีฯ ลักษณ์ มีภาพพจน์ที่ดี เป็นคนเก่ง ใจซื่อ มือสะอาด..ก็หวังว่าเมื่อเป็น สว. จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องเกษตรกร และมีผลงานช่วยเหลือภาคการเกษตรให้เห็นเป็นรูปธรรม
จากสว. มาถึงเรื่องการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะประชาชนคนธรรมดา จนถึงขณะนี้ไม่อาจล่วงรู้ว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล ได้แต่ติดตามข่าวจากสื่อ แล้วเดาไปต่างๆ นานา ไม่กล้าฟันธง จนกว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่นหมายความว่าได้มีการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่น่าสนใจระหว่างนี้ คือการเจรจาต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรี ใครจะขอเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงไหนก็ว่าไป สนใจแต่กระทรวงเกษตรฯ นี่แหละว่าใครอยากได้ เดิมทีเข้าใจว่าพรรคภูมิใจไทยอยากได้ เพราะลูกพี่ใหญ่เคยดูแลกระทรวงนี้มาก่อน และเพื่อมาผลักดันเรื่องการปลูกกัญชาให้ถูกกฎหมาย แต่มาถึงนาทีนี้ ภูมิใจไทยไม่ไยดี กระทรวงเกษตรฯ เสียแล้ว หันไปจอง กระทรวงคมนาคม และ มหาดไทย แต่มีคนจะยก สาธารณสุข ให้เพราะผลักดันกัญชาได้เหมือนกัน
ในขณะที่ ประชาธิปัตย์ อยากดูแลกระทรวงเกษตรฯ หลังจากทิ้งกระทรวงนี้ไปนานนับแต่ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการเมื่อปี 2535-2537 ที่ ปชป. อยากดูแลกระทรวงนี้เพราะอยากช่วยเกษตรกรภาคใต้แก้ปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน ที่แสนจะตกต่ำอยู่ในขณะนี้ และเพื่อดึงคะแนนเสียงของสมาชิกพรรคในภาคใต้กลับคืนมา….
พรรคพลังประชารัฐเอง ก็ยังสนุกอยู่กับกระทรวงเกษตรฯ เพราะเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน ประสบความสำเร็จ และยังมีอีกหลายโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ จึงต้องการเข้ามาดูแลกระทรวงเกษตรฯ จะได้สานงานต่อไปเพราะตอนหาเสียงได้พูดถึงโครงการต่างๆ ไว้เยอะ...
จะว่าไปกระทรวงเกษตรฯ ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ที่มีพรรคพลังประชารัฐออกหน้าอยู่นี้ เป็นกระทรวงที่มีการแก้ปัญหาของเกษตรกรโดยใช้เงินงบประมาณน่าจะมากที่สุดกว่าทุกรัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมา ลองย้อนไปดูการช่วยเหลือเกษตรกรปี 2558-2559 ที่สำคัญๆ ได้แก่ ช่วยเหลือชาวนาผู้มีรายได้น้อยไร่ละ 1,000 บาท ใช้งบประมาณไป 39,506 ล้านบาท ชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาท ใช้เงินไป 8,315 ล้านบาท สร้างความเข้มแข็งให้ชาวสวนยางครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ใช้เงินไปอีก 10,450 ล้านบาท
ในปี 2560 มีโครงการที่สำคัญ คือ โครงการ 9101 ฯ หรือที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อโครงการเป็นโครงการเกษตรยั่งยืน 1 ที่ให้ชุมชนจำนวน 9,101 ชุมชนเสนอโครงการพัฒนาโดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และบริหารจัดการโครงการโดยชุมชนเองภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีงบประมาณสนับสนุนให้ชุมชนละ 2.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณ 22,752 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้มีการประเมินว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานรากก่อให้เกิดกระแสเงินทุนหมุนเวียนในภาพรวมเพิ่มขึ้นถึง 54,040 ล้านบาท
ปี 2561 มีโครงการสำคัญ คือ โครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก (อีกแล้ว) ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ใช้งบในโครงการนี้ไปประมาณ 24,000 ล้านบาท
รวมงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการและมาตรการที่สำคัญๆ ตั้งแต่ปี 2558-2561 เป็นเงินกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีรายได้น้อย และยังต้องเผชิญกับราคาผลผลิตตกต่ำแบบที่รัฐบาลเองก็แก้ปัญหาแบบไร้ทิศทาง และไม่ได้มีข้อมูลเชิงลึกที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเสียเป็นส่วนใหญ่
พรรคไหนจะมาแบ่งเค้กส่วนที่เป็นกระทรวงเกษตรฯ กรุณาขุดคุ้ยข้อมูลเชิงลึกของปัญหาต่างๆ ในภาคเกษตรมาวิเคราะห์ดูอย่างจริงจัง แล้วหาคนที่จริงใจแก้ปัญหามาทำงาน คนที่เคยอยู่กระทรวงเกษตรฯมาแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้กระทรวงเกษตรฯดีขึ้น ขอร้องว่าอย่ากลับมาเลย....
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี