นายจันทร์ อินทสาร ปราชญ์ชาวบ้านและประธานกลุ่มผู้ปลูกข้าวสาลีธัญพืชเมืองหนาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตนปลูกข้าวสาลีมาตั้งแต่ปี 2529 นับเป็นคนแรกของประเทศไทยที่ปลูกข้าวสาลี สาเหตุหลักที่เลือกปลูกข้าวสาลี เนื่องจากเป็นธัญพืชเมืองหนาวที่สามารถปลูกได้ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาวเย็น และเป็นพืชใช้น้ำค่อนข้างน้อย รวมถึงไม่มีโรคและแมลงศัตรูข้าว โดยพื้นที่ของตนแต่เดิมจะปลูกข้าวนาปีปีละ 1 ครั้ง ทำให้รายได้ไม่ครอบคลุมตลอดทั้งปี ดังนั้น หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจะปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ปอเทือง ถั่วเขียว เพื่อไถกลบปรับปรุงบำรุงดิน แล้วจึงปลูกข้าวสาลีประมาณเดือนธันวาคมและเก็บเกี่ยวในเดือนเมษายน เป็นการสร้างรายได้เสริมหลังทำนาปี อีกทั้ง ได้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายจันทร์กล่าวต่อว่า ช่วงแรกตนปลูกข้าวสาลีไว้ผลิตแป้งและทำขนมเก็บไว้บริโภคเองในครัวเรือน ส่วนที่เหลือจึงจะขาย ต่อมามีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกข้าวสาลีธัญพืชเมืองหนาว โดยมีเกษตรกรในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เข้าร่วมเป็นสมาชิกซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 35 คน พื้นที่รวมกันประมาณ 170 ไร่ สามารถผลิตข้าวสาลีได้เฉลี่ย 400 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตทั้งหมดจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 30-35 บาท ทั้งนี้ ภายในกลุ่มจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันปลูกข้าวสาลีคนละปีเพื่อไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด นอกจากนี้ จะควบคุมคุณภาพผลผลิต เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน กรมการข้าว อย่างต่อเนื่อง
นายจันทร์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันข้าวสาลีเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เพราะนอกจากจะนำไปทำแป้งขนมปังแล้ว ยังนำไปทำน้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนหรือน้ำคลอโรฟิลล์ เจาะตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพ อีกทั้งยังนำเมล็ดไปเลี้ยงหนอนเพื่อนำไปเป็นอาหารนกได้อีกด้วย
ส่งผลให้สมาชิกทุกคนภายในกลุ่มฯ มีรายได้ดีขึ้น พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ที่สำคัญคือไม่เป็นหนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี