17 พ.ค.62 นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงหลักเกณฑ์การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2563 เห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุป พร้อมกับกำหนดเป็นแผนแม่บท เพื่อเกณฑ์การรับนักเรียนจะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงทุกปี เช่น การรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการกำหนดไว้ที่ 60% เกณฑ์จำนวนนักเรียน 40 คนต่อห้องเรียน เกณฑ์เหล่านี้ไม่ควรจะเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ในประเด็นการรับเด็กในเขตพื้นที่บริการ ที่ประชุมได้หารือว่า ไม่ควรไปบังคับโรงเรียนต้องรับเด็กในพื้นที่ 100% ทั้งหมด โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง อาจไม่จำเป็นต้องรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ โดยให้โรงเรียนรับนักเรียนทั่วประเทศเข้ามาเรียนด้วยการสอบ 100% เพราะโรงเรียนกลุ่มนี้ถือเป็นโรงเรียนที่ทำหน้าที่พัฒนานักเรียนเก่งของประเทศ ส่วนโรงเรียนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มโรงเรียนแข่งขันสูง สามารถรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการได้เลย แต่หากโรงเรียนเหล่านี้สามารถพัฒนาโรงเรียนให้อยู่ระดับแข่งขันสูงได้ ก็สามารถเปลี่ยนมารับนักเรียนเข้าเรียนโดยการสอบ 100% ได้เช่นกัน
“ในอนาคตจะมีโรงเรียน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก รับเด็กจากทั่วประเทศ เข้ามาเรียนโดยการสอบ 100% เช่นเดียวกับ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้ถือเป็นโรงเรียนครีมที่จะรับเด็กเก่งๆ มาสร้าง และ กลุ่มสอง มีสัดส่วนการรับเด็กในเขตพื้นที่บริการเหมือนในปัจจุบัน โดยจะต้องกำหนดสัดส่วนให้ชัดเจน ทั้งจำนวนรับนักเรียนต่อห้อง ส่วนจะให้โรงเรียนไหนสอบเข้าเรียนได้ 100% โดยไม่มีการกำหนดเขตพื้นที่บริการ นั้น เป็นเรื่องที่ สพฐ.จะพิจารณา "นายเอกชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าควรเป็นกลุ่มโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนโยธินบูรณะ โรงเรียนสตรีวิทยา รวมทั้งโรงเรียนประจำจังหวัด เพราะเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพเด็กเก่งๆ เหมือนกับเรานำเพชรมาเจียระไน ส่วนผู้ปกครองก็ต้องมีการทำความเข้าใจว่า โรงเรียนที่สอบ 100% เป็นโรงเรียนที่จะพัฒนาศักยภาพเด็กเก่งผู้ปกครองต้องเลือกว่า ต้องการให้ลูกตนเองเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่มีสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น ก็ให้ลูกไปสอบ แต่ถ้าสอบไม่ได้ก็ยังมีโรงเรียนอื่นรองรับ
นอกจากนี้ กพฐ.ยังเห็นว่า ไม่อยากให้โรงเรียนรับเด็กจำนวนมากๆ เพื่อให้ตนเองได้เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ สพฐ.ควรมีการกำหนดจำนวนรับนักเรียนของโรงเรียน รวมทั้งกำหนดการจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวจากปัจจุบันที่จ่ายเงินอุดหนุนตามรายหัวเด็กนักเรียน ก็มีการกำหนดให้โรงเรียนรับเด็กได้ จำนวน 1,200 คน ส่วนเด็กที่เกินมาจะได้รับเงินอุดหนุนน้อยลง หากใช้วิธีนี้จะทำให้โรงเรียนไม่ยอมรับเด็กเพิ่ม โรงเรียนจะมีคุณภาพมากขึ้น และจะทำให้เด็กกระจายไปยังโรงเรียนอื่นๆ ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว กพฐ.จะเสนอให้ สพฐ.พิจารณา ซึ่งก็แล้วแต่ สพฐ.จะพิจารณา แต่ควรประกาศหลักเกณฑ์การรับนักเรียนโดยเร็ว เพราะหลักเกณฑ์บางอย่างมีข้อกำหนดว่าจะต้องประกาศล่วงหน้า 1 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี