“กฤษฏา ทุบโต๊ะ สั่งอ.ส.ค.ส่งนมแทน ดัดหลังผู้ประกอบการนมโรงเรียน เบี้ยวส่งนม อ้างเรื่องได้โควตาน้อยลง ลั่นถ้าเจอปัญหาส่งนมไม่ทัน บูดเสีย ตกคุณภาพ โดนโทษหักโควตาให้รายอื่นทันที ขึ้นประวัติติดลิตส์บกพร่อง หั่นส่งนมเทอมสองด้วย ย้ำทุกหน่วยงานลงตรวจนับทุกโรงเรียน ชี้จำนวนเด็กนักเรียนลดลงทุกปี เร่งทุกฝ่ายหาทางออก ทำแผนเลี้ยงโคนมสมดุลตลาด”
19 พ.ค.62 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวยืนยันว่า การบริหารจัดการนมโรงเรียนเทอมนี้ประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผ่านมา เปรียบเทียบเรื่องร้องเรียน ใช้เวลาประชุมแต่ละครั้งยาวนาน ก็ยังมีร้องเรียน มีนมบูด นมเสีย นมตกคุณภาพ เมื่อนมไปถึงโรงเรียนต่างๆ แม้ว่าการจัดระบบครั้งนี้มีเรื่องเรียนมาบ้าง ได้แก้ไขแล้วเสร็จทุกเรื่อง ปัญหาน้อยกว่าระบบเก่า โดยเทอมแรกนี้ใช้ระบบบริหารที่ปรับใหม่ กระจายการส่งนมออกไปยังกลุ่ม5กลุ่มจังหวัด ซี่งสามารถผ่านไปด้วยดี แม้ว่ายังมีปัญหากลุ่ม5 ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ เพราะจำนวนนักเรียนน้อยลง ผู้ประกอบการมีจำนวนมาก จากการหารือผู้เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าเปิดเรียนวันอังคารนี้ เด็กนักเรียนมีนมคุณภาพดื่ม
“สั่งการเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯทุกหน่วยงาน ไม่ใช่เฉพาะกรมปศุสัตว์เท่านั้น ลงไปดูแลทุกโรงเรียน ให้กรมส่งเสริมการเกษตร ที่มีสำนักงานในทุกพื้นที่ 800กว่าหน่วยประเทศ ลงไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆในโครงการอาหารเสริม ติดตามว่าได้รับนมตรงเวลาไม่บูดเสีย เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่เอกชนทำสัญญาซื้อขายไว้ หากมีกรณีส่งนมไม่ครบโดยไม่มีเหตุผล เทอมต่อไปจะโดนลดโควตา นำโควตาไปให้รายอื่น จะขึ้นประวัติไว้ด้วยเป็นผู้ประกอบการนมโรงเรียนที่บกพร่อง “นายกฤษฏา
ทั้งนี้ นายกฤษฏา ได้ส่งไลน์ด่วนที่สุดเรื่อง การเร่งรัดแก้ไขปัญหาการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2562 ถึงปลัดเกษตรฯ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรที่เกี่ยวข้องและปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ระบุว่าตามที่ ครม.ได้เห็นชอบให้ กษ.ปรับระบบโครงการนมโรงเรียนสำหรับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานมไม่มีคุณภาพและการส่งนมไปยังโรงเรียนไม่ตรงต่อเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา นั้น ขณะนี้ กษ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม)
สำหรับนักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศและได้ให้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ระดับกลุ่มพื้นที่ (5 กลุ่ม) เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกและจัดสรรสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนในโครงการ ฯ ให้กลุ่มผู้ประกอบการที่แสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการส่งอาหารเสริม (นม) โรงเรียนแล้ว โดยใช้จำนวนนักเรียนตามข้อมูล (Big Data) ของ ศธ. และปริมาณ/ขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการให้บริการนมโรงเรียนในพื้นที่มาใช้ในการคำนวณสรรปริมาณน้ำนมให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ขอเข้าร่วมโครงการ เพื่อป้องกันการส่งนมไม่ตรงเวลาและนมไม่มีคุณภาพ รวมทั้งการส่งนมไม่ครบตามปริมาณความต้องการของจำนวนนักเรียน ตามสัญญาซื้อขายระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโรงเรียนเอกชนหรือหน่วยจัดซื้อ กับ อ.ส.ค. หรือ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับมอบอำนาจจากองค์การส่งเสริมกิจการโคมนม( อ.ส.ค. )
ดังนั้น จึงขอให้ปศุสัตว์จังหวัดและเกษตรจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการส่งมอบอาหารเสริม (นม) ให้แก่โรงเรียนต่างๆให้ครบทุกแห่งและเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนรวมทั้งต้องเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพตามสัญญาที่ตกลงไว้กับทางราชการด้วย
ในกรณีที่มีผู้ประกอบการบางรายในพื้นที่บางแห่งอ้างว่าตนเองได้รับการจัดสรรปริมาณส่งนมโรงเรียนไม่เป็นธรรมนั้น ให้แนะนำผู้ประกอบการรายดังกล่าวยื่นอุทธรณ์ต่อ ผวจ. ตามขั้นตอนของกฎหมายได้ทันที แต่จะอ้างเป็นเหตุระงับไม่ยอมไปส่งนมตามสัญญาที่มีอยูแล้วไม่ได้ ให้แยกประเด็นการส่งนมกับข้ออ้างเรื่องการจัดสรรไม่เป็นธรรมออกจากกันด้วย และหากผู้ประกอบการรายใดไม่ยอมไปส่งนมตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้นักเรียนไม่มีนมดื่มตามวันเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผล ก็ให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการดังกล่าวส่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพื่อรวบรวมรายชื่อส่งให้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลุ่มพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเสนอ คณะทำงานพิจารณาโทษ ตรวจสอบกลั่นกรองและพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น พิจารณาตัดโควต้าจำนวน/ปริมาณนำ้นมในภาคการศึกษา (เทอม)ต่อไปโดยเคร่งครัด และให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนม(อ.ส.ค.) ได้ส่งนมทดแทนสำหรับโรงเรียนที่ผู้ประกอบการไม่ไปส่งนมโรงเรียนเป็นการชั่วคราวต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตร ทุกเขตตรวจราชการได้ไปตรวจติดตามการดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้นแล้วรายงานผลให้ปลัดกระทรวงฯทราบตั้งแต่ 21 พ.ค.62 ด้วย รวมทั้ง ปลัดกระทรวงเกษตร และ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และผู้เกี่ยวข้องได้เร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ในโครงการอาหารเสริม (นม)โรงเรียนด้วยว่า ขณะนี้จำนวนนักเรียนในแต่ละปีมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆจึงมีผลให้ปริมาณความต้องการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนลดลงด้วย ผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมก็ต้องเตรียมแผนการตลาดและการเลี้ยงโคนมให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการ (Demand) นมในตลาดด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี