21 พ.ค.62 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ซึ่งเปิดรับให้ผู้ป่วยที่ต้องการใช้กัญชาในการรักษา ได้มาแจ้งจดทะเบียนการครอบครอง ปรากฏว่าได้มีผู้ป่วยและญาติๆ เดินทางมาขอขึ้นทะเบียนกันจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยจากโรคต่างๆ ที่ใช้กัญชาในการรักษามาก่อนแล้ว และเห็นผลจากการรักษา โดยมีนายปรมินทร์ นุยงค์ภักดิ์ หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ จัดโต๊ะไว้คอยรับบริการขึ้นทะเบียนพร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารต่างๆ ก่อนจะออกใบรับรองการครอบครองและการใช้ในการรักษาให้
โดยวันนี้ ทางนางอาภรณ์ กุลบุตร อายุ 54 ปี พร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาขึ้นทะเบียน พร้อมระบุว่า ตัวเองเป็นโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และตับ ซึ่งได้รักษาด้วยแผนปัจจุบันมา 10 ปี จนกระทั่งปีที่ผ่านมา ได้ใช้กัญชาในการรักษาโดยใช้น้ำมันกัญชาเมื่อปี 2561 ซึ่งได้ไปตรวจหลังจากใช้ไปประมาณ 2-3 เดือนก็ไปตรวจครั้ง ผลปรากฏว่าล่าสุดนี้ ไม่พบเชื้อมะเร็งใดๆ แต่ก็ยังคงต้องใช้อยู่เพื่อให้มั่นใจว่าหายขาดแน่นอน จึงได้มาขออนุญาตไว้
ขณะที่นายอัครเดช ฉากจินดา ที่ปรึกษาสมาคมผู้นิยมพืชกัญชาแห่งประเทศไทย กล่าววา ตนเองป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ ปวดหัว ก็ได้ใช้น้ำมันกัญชา น้ำกัญชาต้มในการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย ซึ่งวันนี้ได้ขึ้นทะเบียนเสร็จแล้ว แต่ปัญหาที่พบจากหลายจังหวัดนั้น พบว่า ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่สามารถขออนุญาตได้ เนื่องจากการตีความของเจ้าหน้าที่ ที่ยังยึดติดเกี่ยวกับการรับรองจากแพทย์ว่าจะต้องเป็นแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น และควรยืดระยะเวลาเพิ่มเติม
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ควรจะรับการขอขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีน้ำมันกัญชาสกัดออกมาจาก ของ อย.อีก เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง ก็อยากจะฝากไปยังรัฐบาล ให้ถอดกัญชาออกจาก พรบ.ยาเสพติด ให้ผู้ป่วยปลูกเองใช้เองได้ จะได้เข้าถึงให้ง่ายที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี