ฉบับนี้ผมขอสลับฉาก ด้วยการเล่าถึงการประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ หรือ APTERR Council และคงจะสาธยายรายละเอียดของจัดประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งนับเป็นการประชุมครั้งที่ 7 ที่เพิ่งจัดเสร็จไปไม่นานมานี้ คือ เมื่อวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2562ที่ประเทศมาเลเซีย ครับ
เคยเล่าแบบคร่าวๆ ไปแล้วว่า แอปเตอร์จะบริหารภายใต้การกำหนดนโยบาย ควบคุม กำกับ โดยประเทศสมาชิก 13 ประเทศ โดยมีคณะมนตรีซึ่งประกอบด้วยผู้แทนระดับสูงของแต่ละประเทศ ของไทยเราผู้แทนคือ ท่านเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่อนุเคราะห์ให้สำนักเลขานุการแอปเตอร์ตั้งอยู่นี่แหละครับ ดังนั้น จึงมีการกำหนดในระเบียบแอปเตอร์ว่าด้วยคณะมนตรีแอปเตอร์ คือ จะต้องมีการประชุมคณะมนตรีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยหมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพจัดตามลำดับตัวอักษร เอ ถึงแซด ครั้งที่เพิ่งจัดเสร็จไปข้างต้น มีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ส่วนปีที่แล้วก่อนนี้ สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกำหนดให้เจ้าภาพต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดงาน ยกเว้นค่าเดินทางของผู้แทนจากประเทศผู้เข้าร่วม และค่าโรงแรมที่พัก ส่วนสำนักเลขานุการแอปเตอร์ก็จะเป็นฝ่ายจัดเตรียมเอกสารการประชุม จัดระเบียบวาระการประชุม การดำเนินการประชุม การสรุปผลการประชุม เป็นต้น
ในการเตรียมการต่างๆ ฝ่ายเลขานุการฯ มีหน้าที่ประสานงานและให้คำแนะนำแก่ประเทศเจ้าภาพ และออกหนังสือเชิญสมาชิกไปเข้าร่วมประชุม ระเบียบวาระการประชุมโดยทั่วไปจึงคล้ายๆ กันในทุกครั้ง โดยสาระสำคัญ คือ การขออนุมัติแผนงานและงบประมาณประจำปี การรายงานความก้าวหน้าของการบริหารจัดการกองทุนแอปเตอร์ การรายงานผลการดำเนินการในรอบปี พร้อมตอบข้อสงสัยของสมาชิก และประเด็นที่สำคัญอื่นๆ ที่มีในแต่ละช่วงเวลา แล้วจบลงที่หาเจ้าภาพที่จะจัดครั้งต่อไป
การประชุมคณะมนตรีนี้ เป็นภารกิจสำคัญมากของสำนักเลขานุการแอปเตอร์ นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่หลักซึ่งก็คือการนำข้าวไปบริจาค ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพ ถือเป็นเกียรติอย่างสูง ดังนั้น จึงพยายามจัดอย่างดี ให้เป็นหน้าเป็นตา เป็นศรีสง่าของประเทศเจ้าภาพ สถานที่ในการประชุมมักเป็นสถานที่ที่มีความสะดวกสบายเพื่อให้การจัดประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นมีการจัดเลี้ยงรับรองดีและการแสดงซึ่งส่วนมาก จะเน้นศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ การรับส่งสนามบินต้องไม่บกพร่อง ตลอดจนการพาไปดูงานที่น่าประทับใจ ภารกิจข้างต้นเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพ จึงต้องจัดคณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดมาจากกระทรวงเกษตรฯ มาอำนวยความสะดวกร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเลขานุการฯ
การจัดประชุมที่มาเลเซียครั้งนี้ มีวาระพิเศษอยู่เรื่องหนึ่ง คือ การพิจารณาต่ออายุของผม ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ทั้งนี้เพราะระเบียบแอปเตอร์กำหนดให้ผู้จัดการทั่วไป ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 3 ปี และสามารถต่อได้อีกเพียง 1 สมัย 3 ปี โดยการเห็นชอบของคณะมนตรี ถึงตรงนี้ขอเสริมในเรื่องระเบียบการลงมติของสภามนตรีสักนิดครับ คือ แอปเตอร์ใช้ระบบฉันทามติ หมายถึงการลงมติในเรื่องใดก็แล้วแต่ สมาชิกต้องเห็นด้วยทุกคนทั้ง 13 ประเทศ หรือที่มาประชุม หากค้านเพียงเสียงเดียว ก็ถือว่าเรื่องนั้นไม่ผ่าน ระบบการลงคะแนนเสียงแบบนี้ต่างจากระบบของสหประชาชาติ ซึ่งถือเอาเสียงข้างมากเป็นฝ่ายชนะ ตอนแรกผมก็งงๆ ถึงเจตนารมณ์ของระบบฉันทามติว่า ทำไมต้องเห็นชอบร่วมกันทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคงต้องยุ่งยากมากแน่นอน ที่กว่าคนทั้งหมดจะเห็นตรงกันได้ และน่าจะทำให้งานต่างๆ เดินไปแบบไม่ราบรื่นเป็นแน่แท้ แต่จากที่ใคร่ครวญและสังเกตจากที่ประสบด้วยตนเอง จึงเข้าใจแล้วว่า เจ้าระบบฉันทามตินี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการรวมกันเป็นองค์กรแบบสมัครใจ ฉะนั้น เอาไว้ฉบับหน้ามาว่าต่อครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี