จนท.สนธิกำลังบุกรวบ “ไข่ ยุดยา” พ่อค้ายาไอซ์รายใหญ่ คาตลาดโรงเกลือ พร้อมเพื่อนชาวเขมร ลักลอบขายให้แรงงาน-วัยรุ่นไทย ยึดยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนักกว่า 10 กรัม ตรวจฉี่มีสีม่วง เจอแจ้ง2 ข้อหาหนัก อีกทั้งตรวจพบ “ไข่ ยุดยา” หนีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ อีก1คดี
เมื่อวันที่ 22พฤษภาคม เวลา 09.00น. พ.อ.สหัสดนย์ ธเนศชัยพิทักษ์ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12(ผบ.ชค.กรม.ทพ.12)สืบทราบว่าที่ห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนสองร้อยห้อง บ้านดงงู หมู่ที่ 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อยู่ตรงข้ามตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ให้แรงงานชาวกัมพูชาและกลุ่มวัยรุ่นชาวไทยในอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วจึงสั่งการให้ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201(ผบ.ร้อย ทพ.1201) ประสานความร่วมมือกับพ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว,พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึกจ.สระแก้วและนายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมสืบสวนหาข่าวและร่วมกันวางแผนเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนสองร้อยห้องบ้านดงงู หมู่ที่ 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ โดยแบ่งกำลังเป็น2 ชุด ชุดแรกนำกำลังเข้าทำการปิดล้อมห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนสองร้อยห้องฯ ส่วนชุดสอง นำกำลังจู่โจมบุกเข้าทำการตรวจค้นภายในห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ฯและได้พบนายอาทิตย์ บุญสม อายุ 38 ปี หรือ ฉายา”ไข่ ยุดยา” อยู่บ้านเลขที่ 21หมู่11 ต.เชียงรากน้อย อ.บางประอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป้าหมายโดยแนวทางการสืบสวนพบว่านาย”ไข่ ยุดยา” เป็นเอเย่นค้ายาไอซ์รายสำคัญในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยืนอยู่หน้าห้องแถว ไม่มีเลขที่จึงควบคุมตัวไว้ได้
เบื้องต้น”ไข่ ยุดยา”พยายามขัดขืนแต่จนท.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วจึงสามารถล็อคตัว”ไข่ ยุดยา”ได้ตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายจึงเข้าไปตรวจในห้องพัก พบยาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสจำนวน 1ถุง น้ำหนัก 5.319 กรัม ซุกซ่อนอยู่บนขอบผนังห้องน้ำภายในห้องพักซึ่งนายอาทิตย์ บุญสม หรือ ไข่ ยุดยา รับสารภาพว่า เป็นของตนเองจริง
ส่วน จนท.อีกชุดควบคุมตัวนายที ดำ อายุ 37 ปี ชาวกัมพูชา ที่วิ่งหลบหนีออกจากห้องพักห้องดังกล่าว สอบสวน เบื้องต้นพบว่า นายที ดำ ชาวกัมพูชา เป็นเพื่อนกับนายอาทิตย์ บุญสม หรือ ไข่ ยุดยาและพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน จึงนำนายที ดำ มาทำการตรวจค้นที่ห้องดังกล่าวอีกครั้ง จากการตรวจค้นพบยาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกใสน้ำหนัก 4.989 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในแก้วพลาสติกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งนายที ดำ รับสารภาพ เป็นของตนเอง จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน ไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดซึ่งจากการตรวจปัสสาวะทั้ง2คนพบมีสารเสพติดประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)ในร่างกายทั้ง2คนจึงร่วมกันควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนของจนท.พบว่านายอาทิตย์ บุญสมและนายที ดำได้ร่วมกันค้าและขายยาไอซ์ให้กับแรงงานชาวกัมพูชาและกลุ่มวัยรุ่นชาวไทยในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มานานแต่หลุดรอดการตรวจค้นจับกุมมาได้ตลอดจนกระทั่งจนท.ต้องใช้วิธีจู่โจมตรวจค้นจึงจับกุมทั้ง2คนได้
ต่อมา พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้ตรวจสอบประวัตินายอาทิตย์ บุญสม ในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศของสตม.พบว่านายอาทิตย์ บุญสม ถูกศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับข้อหาปล้นทรัพย์ผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่23ธ.ค.49แต่ได้หลบหนีมาลักลอบค้ายาเสพติดร่วมกับเพื่อนชาวเขมรภายในชุมชนสองร้อยห้องฯดังกล่าว
จากนั้นได้ควบคุมตัวนายอาทิตย์ บุญสม หรือ ไข่ ยุดยา ส่งให้ สว.สอบสวน.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย พร้อม ทั้งแจ้งประสานไปยังสภ.พระอินทร์ราชาฯมาอายัดตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คดีปล้นทรัพย์ผู้อื่น อีก1ข้อหา
ส่วนนายที ดำ ชาวกัมพูชา เพื่อนร่วมแก๊ง ถูกตั้งข้อหา”มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและ เสพยาเสพติดประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย และพ่วงข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อีก 1 ข้อหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี