แฉยอดนำเข้า‘พาราควอต’ยังพุ่ง สวนทางแผนลด-เลิกใช้ใน 2 ปี
23 พ.ค.62 รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เร่งรัดแผนจำกัดการใช้ และลดการนำเข้า 3 สารเคมีอันตราย ประกอบด้วย 1.พาราควอต 2.ไกลโฟเซต และ 3.คลอร์ไพริฟอส รวมทั้งมีเป้าหมายให้เลิกใช้ภายใน 2 ปีนี้ ซึ่งสวนทางกับการอนุญาตของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่ให้เอกชนขอนำเข้า เนื่องจากจากการตรวจสอบปริมาณนำเข้าวัตถุอันตราย พาราควอต ปี 62 อยู่ที่จำนวน 21,709 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่มีจำนวน 21,412 ตัน , ไกลโฟเซต ปี 62 จำนวน 48,501 ตัน ลดลงจากปี 61 ที่มีจำนวน 48,822 ตัน และคลอร์ไพริฟอส ปี 62 จำนวน 932 ตัน ลดลงจากปี 61 ที่มีจำนวน 1,928 ตัน , สารคลอไพรีฟอสและไซเปอร์แมไทส์ ปี 62 จำนวน 246 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่มีจำนวน 236 ตัน
วันเดียวกัน น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรได้จัดอบรมเพื่อสร้างวิทยากรไปอบรมเกษตรกรในหลักสูตร การใช้วัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้ถูกต้องและปลอดภัย ให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย การยางแห่งประเทศไทย และสมาคมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย รวมจำนวนผู้รับการอบรมในรุ่นที่ 1 ทั้งสิ้น 1,700 คน ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรและศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ส่วนสมาคมภาคเอกชนทั้ง 3 สมาคมจัดอบรมที่ กรมวิชาการเกษตร
ทั้งนี้ สำหรับภาคเอกชนทั้ง 3 สมาคม จากเดิมที่กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการอบรมไว้ทั้งหมด 300 คน แต่มีการแจ้งความประสงค์จากสมาคมขอเข้ารับการอบรมมาเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้รวมเป็นกว่า 500 คน ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดอบรมในรุ่นที่ 1 ในวันนี้จำนวน 200 คน และจะอบรมวิทยากรจากทั้ง 3 สมาคมที่เหลืออีกจำนวน 300 คนในรุ่นที่ 2 วันที่ 6 มิ.ย.นี้
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่าขณะนี้กรมวิชาการเกษตรอยู่ในระหว่างการสร้างวิทยากรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปทำหน้าที่วิทยากรนำความรู้ที่ได้รับทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติไปอบรมเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจำนวน 1.5 ล้านคนที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้สารทั้ง 3 ชนิดนี้ ซึ่งเกษตรกรที่จะเข้ารับการอบรมต้องมีทะเบียนเกษตรกร หรือหลักฐานแสดงพื้นที่ปลูกพืชที่มีความจำเป็นต้องใช้สารพาราควอตและไกลโฟเซต สำหรับกำจัดวัชพืชใน อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง และไม้ผล และใช้คลอร์ไพริฟอสเพื่อกำจัดแมลงในไม้ดอก พืชไร่ และกำจัดหนอนเจาะลำต้นในไม้ผล
“ต่อไปการซื้อสารทั้ง 3 ชนิดไปใช้เกษตรกรจะต้องซื้อจากร้านที่ได้รับอนุญาต แสดงหลักฐานใบผ่านการอบรม และแจ้งชนิดพืชที่ปลูก พื้นที่ปลูก เพราะห้ามใช้สารพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อกำหนดปริมาณวัตถุอันตรายที่จะซื้อนำมาใช้ได้ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด จะสามารถจำกัดการใช้ได้” น.ส.เสริมสุข กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี