ชาวอำนาจเจริญ ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มาพักหลัง ปลูกข้าว พอมีข้าวไว้กินปีชนปี เพราะฝนตกไม่ค่อยดี จึงต้องมองหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนท้องนากลายเป็นนาบัว เพาะบัวขาย ควบคู่กับการปลูกดอกดาวเรือง และขุดบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่อีก 5 บ่อ สร้างรายได้ดีระดับหนึ่ง
นายอนุสรณ์ ศรีจันทร์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ที่ 5 บ้านนาหว้าต.โนนโพธิ์ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าว่า ได้รับการถ่ายทอดอาชีพการทำนาปลูกข้าวจากพ่อแม่ เรียกว่า เกิดมาลืมตาอ้าปากก็ได้เห็นท้องนา สัมผัส ต้นข้าวออกกอเมล็ดข้าวเต็มรวงเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งนาทุกวัน ความผูกพัน ในการทำนาปลูกข้าวจึงมีมาก และไม่อาจเลิกราได้ คงยังก้มหน้าทำนาปลูกข้าวเป็นประจำทุกปี เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่คนไทยตลอดไป
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า มีที่นามรดกตกทอดอยู่จำนวน 19 ไร่ ก่อนนั้นปลูกทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าทั้งหมด ทว่าทุกวันนี้ได้แบ่งเป็นปลูกข้าว จำนวน 5 ไร่ แยกเป็นข้าวเหนียว 3 ไร่ และข้าวเจ้า 2 ไร่ ถ้าเหลือจากกินก็จะขาย ซึ่งเงินที่ได้จากการขายข้าวก็จะมาลงทุนขุดบ่อเลี้ยงปลา 5 บ่อ เลี้ยงทั้งปลานิล ไน ยี่สกและปลาตะเพียน และอีก 10 ไร่ ทำเป็นนาบัว ซึ่งได้เรียนรู้การทำนาบัวมาจากการเดินทางไป จ.ขอนแก่น เห็นเกษตรกรปลูกบัวเต็มสระน้ำ เกิดความสนใจ จึงสอบถามเรียนรู้จนเข้าใจดี เมื่อกลับมาบ้านก็ซื้อพันธุ์บัวหลวงมาด้วย ทำการทดลองปลูกบนที่นา 2 ไร่ จำหน่ายให้กับพ่อค้า แม่ค้าในตัวเมืองอำนาจเจริญ ขายดีมาก หากเป็นวันสำคัญทางศาสนาก็จะมียอดสั่งเพิ่มเป็น 2 เท่าจึงต้องขยายพื้นที่การปลูกบัวเพิ่มเป็น 8 ไร่ รวมเป็น 10 ไร่ ขยายเพิ่มเป็น 17 ไร่
นายอนุสรณ์ บอกถึงวิธีปลูกบัวพอสังเขปว่า เริ่มแรกทำการปรับพื้นที่ ขุดเป็นสระน้ำ แล้วพรวนดิน จากนั้นให้ปล่อยน้ำลงไป ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ต่อมา นำพันธุ์บัวหลวง ที่ซื้อมาจาก จ.ขอนแก่น จำนวน 100 ต้น ทำการปลูก บัวก็จะเจริญเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ให้ทดน้ำลงสระไปเรื่อยๆ ตามความเจริญเติบโตของต้นบัว ประมาณ 1 ปี ต้นบัวก็จะขยายพันธุ์เต็มสระน้ำและก็จะทยอยออกเป็นดอกบัวตูม หากเก็บไม่ทันก็จะออกเป็นผลบัว ถ้าปลูกบัวติดแล้วจะให้ดอกและผลตลอดเวลา เรียกว่าตลอดทั้งปี ที่ผ่านมาจะมีพ่อค้า แม่ค้า โทร.สั่งให้ไปส่งที่ตลาดในตัวเมืองอำนาจเจริญทุกวัน โดยเฉพาะวันสำคัญทางศาสนาจะต้องไปส่งถึง 2 เวลา คือ เช้าและกลางวัน ซึ่งขายดีมากในวันสำคัญทางศาสนา
นอกจากนี้ยังกันพื้นที่ จำนวน 1 ไร่ ปลูกดอกดาวเรือง ซึ่งที่ผ่านมาตลาดตอบรับดีมาก ซึ่งจะกำหนดไว้เลยว่า ถ้าสั่งซื้อดอกบัวจะต้องซื้อดอกดาวเรืองคู่กันด้วยแม้จะเป็นการบังคับทางอ้อมแต่พ่อค้า แม่ค้า ก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เนื่องจากดอกบัวและดอกดาวเรือง ถือว่าเป็นดอกไม้มงคลทั้ง 2 ชนิด ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา โดยเฉพาะดอกดาวเรือง เป็นส่วนประกอบในการทำพวงมาลัย และเชื่อว่าใครมีพวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องคอจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น จึงนิยมกันมาก ในบรรดา ผู้สมัครนักการเมืองท้องถิ่น
สำหรับวิธีปลูกดอกดาวเรืองนายอนุสรณ์ อธิบายให้ฟังพอเข้าใจว่า เริ่มแรก ทำการปรับพื้นดิน เตรียมดิน จากนั้น หว่านปูนขาว ต่อมา ใส่ปุ๋ยคอก ทำแปลงปลูก ทำเป็นร่องน้ำรอบๆ แปลง จากนั้นใช้พลาสติกใสคลุมแปลงดิน เพื่อป้องกันวัชพืช ต่อมา เจาะรู ระยะห่างประมาณ 50-70 เซนติเมตร แล้วใส่กล้าพันธุ์ลง ซึ่งร่องน้ำรอบแปลงก็ต้องสูบน้ำใส่จนทั่วให้น้ำชุ่มอยู่ตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 25 วัน ก็สามรถเก็บขายได้ ซึ่งดอกดาวเรือง ชอบสภาพอากาศเย็น ที่ผ่านมาจะมีพ่อค้า แม่ค้าสั่งซื้อคู่กับดอกบัวทุกวันต้องนำไปส่งในตลาดตัวเมืองวันละ 2 เวลา สร้างรายได้ดีระดับหนึ่ง
นายอนุสรณ์ ศรีจันทร์ บอกทิ้งท้ายว่า ทำนาบัวและปลูกดอกดาวเรืองมาร่วม 20 ปี ปัญหาอุปสรรคก็มีบ้าง คือ หากอากาศหนาวจัดติดต่อกันนานก็จะส่งผลกระทบการออกดอกของบัว หรือไม่ออกดอกเลย แตกต่างกับดอกดาวเรืองที่ชอบอากาศเย็น ส่วนแหล่งน้ำก็ใช้น้ำจากลำห้วยปลาแดก ด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำเข้ามาผ่านท่อขนาดใหญ่และท่อพีวีซีย่อยต่อลงแปลงดอกดาวเรืองและบ่อปลา จึงมีน้ำใช้ตลอดปี
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี