จากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิต ผลไม้ในภาคตะวันออกปี 2562 จะมีผลผลิตรวม ทั้ง 4 ชนิด ประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ประมาณ 911,434 ตัน โดยผลผลิตจะออกมากช่วงกลางเดือนเมษายน ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งผลผลิตภาพรวมของผลไม้ทั้ง 4 ชนิด จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยผลไม้บางส่วนที่พร้อมจำหน่าย เกษตรกรบางรายเลือกที่จะขายผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือล้งผลไม้ และก็มีอีกหลายรายที่เลือกขายให้กับสหกรณ์การเกษตร เนื่องจากเชื่อมั่นในราคาที่มีความยุติธรรม และมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ตลอดจนเมื่อถึงสิ้นปีสมาชิกยังได้รับเงินปันผลอีกด้วย
นายวิฑูรย์ สังข์สุวรรณ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด เล่าว่า สหกรณ์ฯ เป็นหนึ่งในสหกรณ์แถบภาคตะวันออกที่มีการรวบรวมผลไม้ โดยเฉพาะมังคุดมาเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว ซึ่งในปี 2561 ที่ผ่านมา สามารถรวบรวมผลผลิตได้ทั้งหมด 50 ตัน จากสมาชิกที่มีสวนมังคุด จำนวน 110 ราย คิดเป็นมูลค่า 2,200,000 บาท ส่วนในรอบปี 2560 สามารถรวบรวมผลผลิตได้ทั้งหมด 45 ตัน มูลค่า 1,200,000 บาท ทั้งนี้ราคาการรับซื้อ/ขายมังคุดจะขึ้นอยู่กับราคาตลาดเป็นหลัก โดยในแต่ละวันราคาสามารถปรับขึ้นลงได้หลายครั้งตามรอบที่เปิดรับซื้อขายมังคุด แต่สหกรณ์ฯ รับรองว่าสมาชิกจะได้ราคาที่เป็นธรรมและไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน
ดังนั้น เพื่อให้สหกรณ์ฯ เกิดสภาพคล่องและมีเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อผลผลิตมังคุดจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป สหกรณ์ฯ จึงได้เสนอโครงการรวบรวมผลไม้ (มังคุด) จังหวัดระยอง เพื่อขอสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผ่านสำนักงานสหกรณ์จังหวัดระยอง จำนวน 5,000,000 บาท ภายใต้โครงการบริหารจัดการรวบรวมผลไม้ธุรกิจในสถาบันเกษตรกร ปี 2562
นายวิฑูรย์บอกอีกว่า ในการรับซื้อมังคุดของสหกรณ์ฯนั้นจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ การรับซื้อแบบคัดเกรดและการซื้อแบบยกลัง โดยการรับซื้อแบบคัดเกรดจะแบ่งมังคุดออกเป็น 3 เกรด คือ ผิวมัน ผิวลายและ ผิวดำ โดยเกรดผิวมันจะมีราคาสูงและส่วนใหญ่จะคัดเพื่อส่งออกต่างประเทศ ซึ่งสหกรณ์ฯ จะจำหน่ายผลผลิตมังคุดให้กับบริษัท จ.เจริญทรัพย์เป็นหลัก โดยแต่ละวันจะมารับมังคุดจากสหกรณ์ฯเฉลี่ยวันละ 1 ตัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้มีการทำตลาดส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ สหกรณ์ฯยังจำหน่ายให้กับผู้ค้าปลีกทั่วไป เช่น พ่อค้าจากตลาด อ.ต.ก. และพ่อค้าจากตลาดแหล่งท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ
ด้านนายบัณทูล ศรีชูเปี่ยม สมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด บอกว่า ตนเองมีอาชีพทำสวนผลไม้เป็นหลัก โดยแบ่งเป็น มังคุด 3 ไร่ และทุเรียน 4 ไร่ ซึ่งเฉพาะมังคุดเพียงอย่างเดียวสามารถสร้างรายได้ต่อปีได้กว่า 100,000 บาท โดยล่าสุดสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายให้กับสหกรณ์ได้ประมาณ 1 ตัน และยังเหลือมังคุดที่รอการเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 20% ซึ่งผลผลิตทั้งหมดตนเลือกที่จะขายให้กับสหกรณ์ฯ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในระบบ และราคารับซื้อที่ยุติธรรม ไม่กดราคา ประกอบกับแต่ละปีสหกรณ์ฯ จะมีการปันผลคืนให้กับสมาชิก รวมถึงยังสามารถซื้อปัจจัยการผลิตจากสหกรณ์ฯได้ในราคาถูกอีกด้วย สิ่งเหล่านี้คือประโยชน์ที่ตนได้รับจากการเป็นสมาชิก
สหกรณ์ฯ
จะเห็นได้ว่าสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด เป็นอีกสหกรณ์หนึ่งที่ดำเนินงานด้วยหลักธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใส และเห็นแก่ประโยชน์ของสมาชิกเป็นสำคัญ จนสามารถเรียกแรงศรัทธา สร้างความเชื่อมั่น และความซื่อสัตย์ต่อสมาชิกได้อย่างมากเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี