เหลือแต่กระดูก! ฆ่าทุบหัวห่อเสื่อน้ำมันอำพราง หิ้วผู้ต้องสงสัยเค้นสอบ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 พ.ค.62 ร.ต.อ.เกชา ปากสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีชาวบ้านพบศพเหลือแต่โครงกระดูก ถูกห่อด้วยเสื่อน้ำมัน ทิ้งไว้ริมถนนในหมู่บ้านห้วยตีนตั่ง สายนครไทย – ภูหินร่องกล้า พื้นที่หมู่ 1 ต.เนิ่นเพิ่ม อ.นครไทย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุดสยาม ภูมิประเสริฐ ผกก.สภ.นครไทย , พ.ต.ต.บุญญาภาส เพ็งฤกษ์ นวท.(สบ 2) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศพฐ.6 แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบซากศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกมนุษย์ถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อน้ำมันลายตารางสีน้ำตาลขาวหมกอยู่ในพงหญ้าริมถนน สภาพศพเน่าเปื่อยจนเหลือแต่โครงกระดูกส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบพบเป็นศพเพศชายที่กะโหลกศีรษะมีรอยถูกตีด้วยของแข็งจนเป็นรู คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำซากศพส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก
สอบสวนนางยอดรัก สีอุด อายุ 47 ปี ผู้พบศพเป็นคนแรก ให้การว่า ตนเองได้เดินทางมาถางหญ้าในที่ดินของตนเองที่อยู่ติดกับริมถนน ระหว่างที่ทำการถางหญ้าอยู่นั้นได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากสัตว์ ที่คิดว่าเป็นซากสุนัขที่อาจถูกรถชนตาย จึงเดินหาที่มาของกลิ่นจนไปพบแต่ก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าไม่ใช่ซากของสุนัข แต่เป็นเป็นซากศพโครงกระดูกของมนุษย์ จึงรีบไปแจ้งเพื่อนบ้านและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกันตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพียง 10 เมตร เนื่องจากมีชาวบ้านแจ้งว่าเสื่อน้ำมันที่ปูในพื้นบ้านตรงกับเสื่อน้ำมันที่ห่อหุ้มซากศพ และมีคราบเลือดอยู่ที่พื้นปูนหน้าบ้านและในบ้าน โดยมีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน จึงขอตรวจค้นภายในบ้าน พบเสื้อและกางเกงเปื้อนคราบเลือดที่ติดแห้งอยู่ จึงนำไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอว่าตรงกันกับซากศพที่พบหรือไม่ พร้อมทั้งควบคุมตัวนายตรีภพไปสอบสวนปากคำที่ สภ.นครไทย
ด้านนายบี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี บิดาของนายเอ เปิดเผยว่า บุตรชายเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกคดียาเสพติดมาช่วงสงกรานต์ปีนี้ และยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง บุตรชายจะมีนิสัยโมโหร้าย จนตนและภรรยาต้องแยกไปอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งหากบุตรชายมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นและทำผิดจริงก็ต้องรับโทษไปตามกฎหมาย แต่ขณะนี้เป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ต้องรอให้ทางตำรวจสอบสวนอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ยังมีชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่ใกล้เคียงคนหนึ่ง หลังทราบข่าวได้มาที่เกิดเหตุ และบอกกับตำรวจว่าบุตรชายบุญธรรมหายตัวไปได้ประมาณ 8 วันแล้ว แต่ดูจากซากศพแล้วคาดว่าเสียชีวิตมานานไม่น่าจะใช่บุตรของตน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี