30 พ.ค.62 เวลา 09.30 น. ที่ห้องแถลงข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการก่อเหตุรุนแรงด้วยระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ จชต. ในห้วงที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุรุนแรง มักจะใช้ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องเป็นสัญญาณในการจุดชนวนระเบิด ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิจารณาแนวทางควบคุมซิมการ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ จชต. การดำเนินการ สำนักงาน กสทช. ได้พัฒนาระบบลงทะเบียนซิมการ์ดที่เรียกว่า “2 แชะ อัตลักษณ์”ขึ้น เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ป้องกันการแอบอ้างการลงทะเบียนเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเจ้าของชื่อไม่ทราบ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เปิดใช้บริการซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่ทุกรายทั่วประเทศ ปัจจุบันจะต้องลงทะเบียนด้วยระบบนี้ มิใช่ใช้บังคับเฉพาะในพื้นที่ จชต. เท่านั้น สำหรับในส่วนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิม ได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ โดยผ่านจุดให้บริการเครือข่ายของโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผ่านแอพพลิเคชั่น “2 แชะ อัตลักษณ์” โดย USER ซึ่งเป็นจุดให้บริการย่อย ทั้งระบบจดทะเบียน และระบบเติมเงิน โดยดำเนินการดังนี้
1. ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อยู่และใช้งานในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ซึ่งยังไม่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ ต้องไปแสดงตนพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อลงทะเบียน ณ จุดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือหน่วยงานสังกัดกรมการปกครอง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจัดตั้งเป็นจุดให้บริการย่อย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. - 31 ต.ค. 2562 ทั้งนี้ หากเลยห้วงเวลาที่กำหนดจะไม่สามารถใช้บริการซิมการ์ดดังกล่าวในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้
2. ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อยู่นอกพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา หากมีความประสงค์จะใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา จะต้องลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ ณ จุดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 62 เป็นต้นไป กรณีไม่ลงทะเบียนตามที่กำหนดผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะไม่สามารถนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวมาใช้งานในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้ จนกว่าจะมีการลงทะเบียนด้วยระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ให้ถูกต้อง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือและเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ลงทะเบียนด้วยระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ ณ จุดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจุดให้บริการย่อยของหน่วยงานสังกัดกรมการปกครอง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย ที่มีสัญลักษณ์ “2 แชะ อัตลักษณ์” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ต.ค. 2562 เพื่อให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่านใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการป้องกันการแอบอ้างการลงทะเบียนเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยที่ท่านไม่ทราบ และนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด ท่านก็จะต้องมีความผิดไปด้วยในฐานะเจ้าของชื่อผู้ลงทะเบียนเปิดใช้
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกประกาศเพิ่มเติมในเรื่อง มาตรการการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้เข้าถึงการให้บริการโดยง่ายและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มจุดให้บริการย่อยจากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ จชต. หรือที่เรียกว่า USER ผ่านแอพพลิเคชั่น “2 แชะ อัตลักษณ์” ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ โดยท่านสามารถเข้ารับบริการ ณ จุดให้บริการย่อย ได้ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากท่านมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่ CALL CENTER ของเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี