วันที่ 29 พ.ค. 2562 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563 – 2565 เพื่อใช้เป็นกรอบในการขับเคลื่อน ผลักดันการพัฒนาศักยภาพของประเทศสู่ความมั่นคงด้านวัคซีนในระยะ 3 ปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประชาชนทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบกรอบงบประมาณ 3 ปี ภายใต้ยุทธศาสตร์รวม 69 โครงการจาก 29 หน่วยงาน วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท
นพ.ธวัช กล่าวด้วยว่า สาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ ประกอบด้วย 1.รัฐบาลส่งเสริมให้คนไทยและผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุม เหมาะสม และเป็นธรรม ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน 2.รัฐบาลจะส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนที่จำเป็นสำหรับใช้ป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้าและการส่งออกในระยะต่อไป 3.รัฐบาลจะส่งเสริม และพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนของประเทศเพื่อรองรับความต้องการอย่างเพียงพอ และได้มาตรฐานสากล และ 4.รัฐบาลจะส่งเสริมให้องค์กรภาคีเครือข่ายด้านวัคซีนมีความเข้มแข็งให้สามารถดำเนินการด้านวัคซีนได้อย่างครบวงจร และมีคุณภาพ
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) กล่าวว่า หลังจากนี้สถาบันฯ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ จะนำเสนอนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ.2563-2565 และกรอบงบประมาณ ให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป สำหรับกรอบงบประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทเศษ สถาบันฯ และเครือข่ายการดำเนินงานจะใช้เป็นกรอบในการจัดทำคำของบประมาณบูรณาการพัฒนาวัคซีน
ของประเทศต่อไป
“โครงการและแผนงานสำคัญที่อยู่ภายใต้กรอบงบประมาณ 3 ปีที่กรรมการวัคซีนแห่งชาติเห็นชอบ ที่สำคัญ เช่น โครงการจัดซื้อวัคซีนในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 6,940 ล้านบาท โครงการตามกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพกลไกการนำวัคซีนใหม่บรรจุในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จำนวน 909 ล้านบาท การสนับสนุนให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนคนและสัตว์ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน จำนวน 1,740 ล้านบาท โครงการที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์ จำนวนกว่า 300 ล้านบาท การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 1,854 ล้านบาท เป็นต้น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี