สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการประสานและดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้จัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) มาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยในปี 2562 นี้ เป็นรุ่นที่ 9 แล้ว จัดขึ้นจำนวน 2 กิจกรรม โดยกิจกรรมแรก เป็นกิจกรรม RDPB Camp Extra ครั้งที่ 2 โดยคัดเลือกเยาวชนอายุระหว่าง 13-18 ปี ที่ได้รับรางวัลด้านต่างๆทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้แนวพระราชดำริและผลสำเร็จจากการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เหมาะสม อีกทั้งได้หล่อหลอมกระบวนการเรียนรู้จากศาสตร์พระราชาที่แท้จริง ทั้งจากผู้สนองพระราชดำริ และผู้ปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ จะได้ร่วมเรียนรู้ร่วมปฏิบัติในพื้นที่จริง ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรก ที่ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ปี 2522 จากพื้นที่แห้งแล้งดินเลวขาดธาตุอาหาร กลับมาเป็นพื้นดินที่สมบูรณ์ปลูกพืชพรรณได้นานาชนิด ตลอดจนมีการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง องค์ความรู้ในด้านต่างๆ จนประสบผลสำเร็จ และนำไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกร รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ในพื้นที่ และนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตจนประสบผลสำเร็จ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งได้เรียนรู้จากวิทยากรและปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงที่จะถ่ายทอดความรู้จากแนวพระราชดำริ และการปฏิบัติจริงให้กับเยาวชนทุกคน นอกจากนี้ เยาวชนยังได้ไปทัศนศึกษา ณ ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ที่มีรูปแบบการศึกษาและเรียนรู้ป่าในเมืองอีกด้วย
เด็กหญิงชญาดา เชาว์มานะเดช อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1จาก โรงเรียนปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตนได้รับการคัดเลือกมาเข้าค่ายจากการได้รับรางวัลลูกกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯจากที่ได้ร่วมกิจกรรมรู้สึกดีมากที่ได้เยี่ยมชมบ้านของนายอภิรมย์ ผาวันดี ซึ่งเป็นเกษตรกรที่น้อมนำพระราชดำริมาใช้ในการประกอบอาชีพ โดยการยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้ การจัดการพื้นที่ในการทำการเกษตรที่ดีและถูกต้อง
“ความรู้ที่ได้รับจะนำไปปรับใช้ที่บ้าน และการได้ดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ทำให้ได้รับความรู้ที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้” เด็กหญิงชญาดาเชาว์มานะเดช กล่าว
ด้านนางสาววริสสรา สุขสมกิจ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี บอกว่า ตนได้สมัครเข้ามาร่วมกิจกรรมเพราะอยากจะเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ในหลวง รัชกาลที่ 9ท่านได้ทรงทำมาตลอด 70 ปี ด้วยตนเอง เพราะในห้องเรียนจะได้เรียนรู้แต่จากหนังสือ จากอินเตอร์เนต จากคำบอกเล่าของคุณครูเท่านั้น
“เมื่อได้สัมผัส ได้ลงมือทำ สามารถเข้าใจและเรียนรู้ที่ได้มากกว่าการท่องจำจากตำรา ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารู้สึกอบอุ่น อย่างโครงการป่าในกรุงที่ได้มาดูงานก็เข้าใจว่าป่าในกรุงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้เรียนรู้พืชพรรณไม้ชนิดต่างๆ ที่มีในเมือง ทั้งที่มีสรรพคุณทางยาไปจนถึงการให้ความร่มเย็นและช่วยฟอกอากาศ ส่วนที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ทำกิจกรรมในฐานเรียนรู้ เช่น การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ การผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้ ได้เรียนรู้เรื่องพืชสมุนไพร ได้พบกับเกษตรกรตัวอย่าง ที่บ้านนายอภิรมย์ ผาวันดี ได้เรียนรู้การปักชำต้นหม่อน ได้รู้ว่าหม่อนนั้นกินได้ทั้งแบบสดและนำมาแปรรูป เช่น ทำไอศกรีมลูกหม่อน ไปจนถึงการทำสบู่จากหม่อน ซึ่งสามารถนำความรู้นี้ไปทำเองที่บ้านได้ รู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านทำให้ประชาชนคนไทย พระองค์ท่านทรงยอมเหนื่อยเพื่อเราเพื่อราษฎรทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดชีวิตของพระองค์ท่านทรงทำเพื่อพวกเรามาโดยตลอด” นางสาววริสสรา สุขสมกิจ กล่าว
ทางด้านนายอภิรมย์ ผาวันดี เกษตรกรขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จ ภายหลังจากเข้ารับการอบรมที่ศูนย์ ในเรื่องการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินน้ำและการปรับปรุงบำรุงดิน รวมถึงการทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสาน เล่าว่า เดิมทีตนทำงานในโรงงานแต่รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จึงหันมาทำอาชีพเกษตรเนื่องจากพ่อแม่มีที่ดินอยู่แล้ว
“การปลูกฝังให้กับเด็กๆ และเยาวชนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าได้มีจิตสำนึก อย่างเช่น การรักธรรมชาติรักสิ่งแวดล้อม อย่างที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านทรงสอนว่าปลูกต้นไม้ในใจคน เราก็จะได้เยาวชนที่ดีมีความรักธรรมชาติในอนาคต และเข้าใจในอาชีพการเกษตร ได้รู้ว่าอาชีพเกษตรกรนั้นมีความสำคัญและมีผลอย่างไรกับชีวิตผู้คน ได้กินได้ใช้มาจากอะไร อย่างน้อยเป็นการจุดประกายต่อชีวิตว่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น มีความสำคัญกับชีวิตคนเราเป็นอย่างยิ่ง” นายอภิรมย์ ผาวันดี กล่าว
สำหรับโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) สำนักงาน กปร. ได้จัดมาอย่างต่อเนื่องด้วยมุ่งหวังให้กลุ่มเยาวชนได้มีโอกาสร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อพสกนิกรไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จนเกิดเครือข่ายกลุ่มเยาวชนและสถาบันการศึกษาในการร่วมกันสืบสานแนวพระราชดำริ และผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้อย่างกว้างขวางทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานงานพระราชดำริให้มีความยั่งยืนสืบไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี