หมวดจรูญชนะหวย30ล.
ศาลยกฟ้อง
พยานครูปรีชาไร้น้ำหนัก
ชี้ให้การขัดแย้งกันเอง
ทนายเล็งอุทธรณ์สู้ต่อ
ศาลจังหวัดกาญจนบุรียกฟ้องหมวดจรูญ คดีหวย 30 ล้านอลเวงเหตุศาลเห็นว่าครูปรีชามีเพียงพยานบุคคล ไร้หลักฐานอื่นมาสนับสนุน อีกทั้ง คำเบิกความพยานบุคคลดังกล่าว
มีพิรุธ ขัดแย้งกันเอง รวมถึงแย้งกับข้อมูลใช้โทรศัพท์มือถือ และพื้นที่ใช้งาน โดยพยานโจทก์ให้การสับสน ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อล็อตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย หลังศาลตัดสิน ครูปรีชาจ่อหารือทนายหาช่องอุทธรณ์ ยังยืนยันความจริงก็คือความจริง
ความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้าน ที่เป็นคดีความยืดเยื้อ ระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ. 1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี สืบพยานสองฝ่ายเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยศาลพิพากษายกฟ้อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลเหตุมาจาก โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยเจตนาทุจริตเก็บเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่ 41 ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ชุดที่ 04, 0 7, 1 4, 1 5, และ 2 2, เลข 5 3 3 7 2 6 จำนวน 5 ฉบับ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่ซื้อมาจากน.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ ที่ตลาดเรดซิตี้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 รวม 4 ชุดในราคา 2,200 บาท หลังรับสลากกินแบ่งรัฐบาลจากน.ส.รัตนาพร โจทก์นำมาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินซื้อของภายในตลาด เมื่อกลับถึงบ้าน โจทก์พบว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเลข 5 3 3 7 2 6 รวม 5 ฉบับหายไป
ต่อมาผลการออกรางวัล เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ปรากฏว่า รางวัลที่ 1 คือเลข 5 3 3 7 2 6 โดยในระหว่างวันเวลาที่จำเลยเก็บสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ไปไว้ในครอบครอง จำเลยเบียดบังเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้ง 5 ฉบับ ที่มีมูลค่าเงินรางวัล 30 ล้านบาทไปเป็นของจำเลยโดยทุจริต
เหตุเกิดที่ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรีหรือ มิฉะนั้น วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยรับสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไว้โดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย เหตุรับของโจรเกิดที่ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี และต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เกี่ยวเนื่องกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 357 ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยข้อหายักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งโจทก์ทำหายหรือรับสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยการทำความผิด ฐานยักยอกทรัพย์สินหาย จึงต้องวินิจฉัยก่อนว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 เป็นทรัพย์สินของโจทก์ที่ทำหาย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอก
สำหรับความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาทั้งหมดแล้ว เห็นได้ว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบเกี่ยวกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ดังกล่าว คงมีเพียงพยานบุคคลที่อ้างว่าเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการขายเท่านั้น แต่ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนคำเบิกความของพยานบุคคล
อีกทั้ง คำเบิกความของพยานบุคคลดังกล่าว ก็มีข้อพิรุธและขัดแย้งกันเองในหลายประการ ทั้งเรื่องความสามารถของพยานแต่ละคนในการจดจำเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล การโทรศัพท์ติดต่อนัดหมายให้ไปรับสลากกินแบ่งรัฐบาล ระหว่างโจทก์กับน.ส.รัตนาพร การแจ้งความหลังทราบผลการออกรางวัล และที่สำคัญคำเบิกความของบุคคลที่โจทก์นำสืบ ล้วนขัดแย้งกับข้อมูลการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ และพื้นที่การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโจทก์ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560
เมื่อพิจารณาประกอบกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จำเลยนำสืบหักล้างแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากน.ส.รัตนาพร ที่ตลาดเรดซิตี้ ในวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2560 โดยไม่ได้เดินทางไปตลาดเรดซิตี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 แต่โจทก์กลับใช้วิธีนำสืบโดยหยิบยกเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2560 มากล่าวอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2560
เมื่อปรากฏว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ยังวางขายอยู่บนแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลของน.ส.พัชริดา ในวันที่ 30 ตุลาคม 2560 แต่โจทย์ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากน.ส.รัตนาพร ในวันที่ 27 ตุลาคม 2560 แสดงว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่โจทก์ซื้อไปจากน.ส.รัตนาพร ไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง แต่เมื่อทราบผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 น.ส.รัตนาพร เห็นภาพถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลบนแผงขายของน.ส.พัชริดา ซึ่งน.ส.พัชริดาถ่ายรูปไว้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2560 ปรากฏภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลเลข 5 33 7 2 6 อยู่บนแผง น.ส.รัตนาพร จึงคิดว่าตนเองซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวไปจากน.ส.พัชริดา แล้วนำไปขายต่อให้โจทก์ น.ส.รัตนาพรจึงไปบอกโจทย์ว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง ในครั้งแรก โจทก์ก็ยืนยันว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลที่โจทก์มีเลข 3 ตัวหน้า ไม่ตรงกับรางวัลที่ 1
แต่เมื่อน.ส.รัตนาพรพูดย้ำหลายครั้งว่า โจทก์ถูกรางวัลที่ 1 ทำให้โจทก์เริ่มลังเล จนในที่สุดก็เข้าใจไปด้วยอีกคนว่า ตนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 จริง ตามที่น.ส.รัตนาพรบอก แม้ว่าขณะนั้นโจทก์ จะไม่มีสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 อยู่ในครอบครอง
จนกลายเป็นที่มาของการไปแจ้งความว่า โจทก์ทำสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ตกหาย ทั้งที่ในความจริงแล้ว โจทก์ไม่ได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวมาตั้งแต่แรก เมื่อคดีอาญาโจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่า มีการกระทำความผิดตามฟ้องเกิดขึ้นจริง แต่พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ล้วนมีข้อพิรุธน่าสงสัย และขัดแย้งกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ในหลายประการตามที่กล่าวมา
“ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 มาจากน.ส.รัตนาพร สลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำเลยนำไปขอรับเงินรางวัล ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณา ความอาญามาตรา 214 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง”
หลังฟังคำพิพากษา นายษิทรา หรือทนายตั้ม ทนายความของหมวดจรูญกล่าวว่า ต้องขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ตัดสินอย่างเป็นธรรม หากใครได้อ่านคำพิพากษาจะพิสูจน์ได้ชัดเจน เรื่องนี้หากไม่ได้กองปราบ ปอท. เราคงจะหาหลักฐานมาไม่ได้ขนาดนี้ ซึ่งพยานโจทก์ของเขาให้การขัดกัน พูดจาไม่เหมือนกันเลย อีกทั้ง ยังขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ คลิปเสียงก็พิสูจน์ได้ว่าสามารถเป็นหลักฐานได้ และเจ้าหน้าที่ก็ได้หลักฐานมาโดยชอบด้วยกฎหมาย และวันนี้ศาลก็นำมาพิจารณาด้วย ส่วนหลังจากนี้จะฟ้องกลับหรือไม่ ต้องไปปรึกษากันก่อน และก็ว่ากันไปตามคดีทางแพ่งต่อไป ซึ่งจะเป็นกรรมสิทธิ์ของใครก็ต้องไปอ่านคำพิพากษาที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่หากไม่มีการสำนึกได้ว่าคำพิพากษาที่ตัดสินออกมาที่ชัดเจนอยู่แล้ว ก็คงต้องดำเนินคดีต่อไป
ด้านร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า รอเวลามาปีกว่า ตอนนี้โล่งใจแล้ว และไม่หนักใจ หากฝ่ายนายปรีชา ยื่นอุทธรณ์ จะปรึกษาทนายความว่าขั้นตอนจากนี้จะดำเนินการต่อจนคดีถึงที่สุด.
ขณะที่ครูปรีชากล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า วันนี้อย่างที่สื่อได้รับฟังในคำพิพากษาของศาล ส่วนจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ ขอหารือทีมทนายก่อน แต่เราก็คือเรื่องจริง ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมายก่อน ส่วนของหลักฐานให้ทีมทนายได้ทบทวนและวิเคราะห์อีกครั้ง อะไรคือจุดอ่อนจุดแข็ง เพื่อเข้าสู่อุทธรณ์ต่อไป ตอนนี้เรื่องหวยเป็นของใคร อย่างที่ทนายชี้แจงไปแล้ว ก็ต้องปรึกษาหารือทบทวนกันว่าตรงไหนที่เราต้องเตรียมอุทธรณ์ต่อไป ไม่กังวล ขอบคุณประชาชนทั้งประเทศ ขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี และจะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความเผยว่า ในส่วนการต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ เอาคำพิพากษาของศาลมาพิจารณา เราก็ยังไม่เห็นพ้องด้วย แม้การตัดสินวันนี้ แต่ไม่ได้วินิจฉัยว่าจำเลยเป็นเจ้าของหวย ยังติดใจเรื่องของนิติกรรมสัญญาการซื้อขาย เรามีประจักษ์พยานส่วนแม่ค้าพยานชัดเจน เรื่องนี้เดี๋ยวก็ไปโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์ การพิจารณาคดี ต้องเป็นเรื่องว่ากล่าวในศาลชั้นต้น เราโต้แย้งไว้หมดแล้ว ถ้าทนายตั้มเชื่อมั่นว่าหมวดจรูญเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก็ไปยื่นคำร้องเลย ตอนนี้มีประเด็นเดียวว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายหรือไม่ มีพยานอย่างอื่นที่เรานำสืบอยู่แล้ว ในการพิจารณาข้อเท็จจริงที่จะมาอุทธรณ์หรือฎีกาต้องกล่าวจากศาลชั้นต้น ไม่ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่ม มีตัวอื่น ที่เราจะดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี