7 มิ.ย. 62 นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มประชาคมโลกซึ่งสมาชิกกว่า 178 ประเทศ ในคราวการประชุมสุดยอดระดับประเทศผู้นำว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UN Conference on Environment and Development: UNCEN) หรือการประชุม Earth Summit ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อปี 2535 ได้ตกลงร่วมกัน กำหนดให้วันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day)
สำหรับประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิก ได้ให้ความสำคัญ และร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ได้กำหนดการดำเนินงานภายใต้คำขวัญ “Gender and the Ocean” โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของชายและหญิง เด็กและผู้ใหญ่ ในการแสดงบทบาทและศักยภาพของตนในการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเต็มที่และเท่าเทียม
ด้านนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านการอนุรักษ์ สงวน รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น ปัญหาขยะทะเล ปัญหาการตายและเกยตื้นของสัตว์ทะเลหายากต่าง ๆ ปัญหาความเป็นกรดของน้ำทะเล ปัญหาปะการังฟอกขาว และปัญหาน้ำทะเลเปลี่ยนสี เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. ดำเนินการร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อีกทั้งในปี 2562 ประเทศไทยได้เป็นประธานกลุ่มอาเซียน จึงเป็นโอกาสอันดีในการผลักดันให้กลุ่มประเทศอาเซียนให้ความสำคัญในการร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยได้จัดการประชุมคณะทำงานอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 28 – 31 มกราคม 2562 และจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 เพื่อส่งเสริมให้ประเทศอาเซียนดำเนินการจัดการกับปัญหาขยะทะเล และเป็นการต่อยอดการดำเนินงานจากคราวการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Conference on Reducing Marine Debris in ASEAN Region เมื่อปี ๒๕๖๐ ณ จังหวัดภูเก็ต
“กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตระหนักถึงความสำคัญของทะเลไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะทะเลเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญ ทั้งทางด้านอาหาร ด้านการท่องเที่ยว ด้านการขนส่ง ในปีหนึ่ง ๆ ทะเลสร้างรายได้ทั้งระบบให้แก่ประเทศไทยหลายแสนล้านบาท ในโอกาสวันทะเลโลกปีนี้ ผมจึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกท่านหันมาใส่ใจ และเห็นถึงความสำคัญของท้องทะเลไทย ขอให้ช่วยกันใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า มีส่วนในการร่วมรักษา หากตักตวงผลประโยชน์จากทะเลเกินขอบเขตจนสมดุลของทะเลเสียไป ในที่สุดมนุษย์ทุกคนก็จะได้รับผลกระทบนั้นย้อนกลับมาถึงตัว และเมื่อวันนั้นมาถึง เราก็มิอาจจะฟื้นความอุดมสมบูรณ์กลับมาสู่ทะเลไทยได้อีกแล้ว” ปลัด ทส. กล่าวย้ำเตือน
ขณะที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในฐานะหน่วยงานหลักด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในการสงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทย จนขณะนี้สามารถประเมินได้ว่าระบบนิเวศทะเลไทยอยู่ในระดับดีเป็นที่น่าพอใจ สัตว์ทะเลหายากหลากหลายสายพันธุ์มีปริมาณเพิ่มขึ้นและประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้อยู่เป็นประจำ และในโอกาสสำคัญของวันทะเลโลกปีนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดจัดกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อาทิเช่น กิจกรรมเก็บขยะชายหาดและดำน้ำเก็บขยะ กิจกรรมปล่อยเต่าทะเลและพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติ จัดนิทรรศการให้ความรู้แก่เยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว กิจกรรมการมอบทุ่นผูกเรือให้บริษัทนำเที่ยว เพื่อป้องกันการทำลายแนวปะการัง เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ จะเริ่มจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 มิถุนายน 2562 จนถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2562 ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล ทั้งนี้ สามารถติดตามการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทางเว็บไซต์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (www.dmcr.go.th)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี