โยงป่วนเมืองปี53-57!‘ศรีวราห์’บุกเช็คอาวุธซุกริมน้ำศรีสะเกษ ลั่นพร้อมใช้งาน
7 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ.ตร. และคณะ เดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าคดีที่มีชาวบ้านพบอาวุธสงครามในพื้นที่ อ.ขุขันธ์ โดยมี พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงค์สมาน รอง ผบช.ภ. 3 , พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม , พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ และ พ.ต.อ.วันชัย ชัยชูโชติ ผกก.สภ.ขุขันธ์ ให้การต้อนรับ และ พ.ต.อ.อัยรัช ชินประยุร รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เข้าคุมคดีนี้ รายงานความคืบหน้าของคดีให้ทราบ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ ได้รับแจ้งว่านายไสย ศรีลาชัย อายุ 55 ปี ไปทอดแหหาปลาที่ลำห้วยกมด อยู่ที่ถนนสายโชคชัย-เดชอุดม พบอาวุธสงครามบรรจุในถุงกระสอบปุ๋ย จึงประสานเจ้าเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบและเก็บกู้ พบจรวดต่อสู้รถถัง ชนิด PG 2 โดยพบในวันที่ 5 และ 6 มิ.ย.62 รวม 2 วัน จำนวน 62 ลูก ดินส่งจรวดต่อสู้รถถัง PG2 จำนวน 25 แท่ง ลูกระเบิด M79 ขนาด 40 มม.70 ลูก กระสุนปืน ขนาด 7.62 รวมพบทั้งสองวัน จำนวน 4 ลัง จำนวน 2,800 นัดและดินขยายการระเบิดจรวดต่อสู้รถถัง PG2 จำนวน 1 ลัง จำนวน 48 นัด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้ เมื่อนำข้อมูลการเกิดเหตุเฉพาะกรุงเทพฯ มีการใช้ระเบิดยิงแบบ M 79 และจรวด RPG ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี 2553 - 2557 ดังนี้ 1 ระเบิดยิง m79 ปี 2553 จำนวน 26 เรื่อง ปี 2557 จำนวน 28 เรื่อง มีเหตุที่สำคัญเช่น วันที่ 6 เมษายน 2553 เกิดเหตุที่ลานจอดรถที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ , วันที่ 10 เมษายน 2553 ทำเนียบรัฐบาล , 22 เมษายน 2553 สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง , วันที่ 14- 20 พฤษภาคม 2553 โรงแรมดุสิตธานี , 14 กุมภาพันธ์ บริเวณด้านศาลอาญา , 23 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณด้านหน้าศาลอุทธรณ์ , 23 กุมภาพันธ์ 2557 ถนนราชดำริ หน้าห้างบิ๊กซี , 24 - 27 มีนาคม 2557 สำนักงาน ปปช. , 24 เมษายน 2557 ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ
2.กระสุนปืนขนาด 7.62 มม.(SUSSIAN) มี 5 ครั้งเกิด ปี 2556 จำนวน 3 ครั้ง ในปี 2557 จำนวน 2 ครั้ง เหตุที่สำคัญ 1 กุมภาพันธ์ 2557 เหตุการณ์ปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกหลักสี่ IT สแควร์ 3 จรวด RPG เกิดเหตุในพื้นที่ กทม. 2 ครั้ง ปี 2553 วันทิ่ 20 มีนาคม 2553 ปากซอยแพร่งภูธร ยิงไปทางกระทรวงกลาโหม หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่พลาดถูกสายไฟ วันที่ 14 - 20 พฤษภาคม 2553 ยิงโรงแรมดุสิตธานี
“ในชั้นนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอาวุธสงครามที่พบนี้เป็นของใคร เป็นของคนกลุ่มไหน จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ จะต้องรอการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อได้พยานหลักฐานแน่ชัดแล้วจึงจะชี้ชัดได้ อย่างไรก็ดีได้กำชับให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.3 ชุดสืบสวน ภ.จ.ศรีสะเกษและชุดสืบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดในที่ต่างๆที่อยู่ในเส้นทางนี้มาให้ได้มากที่สุด และให้ได้ตัวผู้ที่เป็นเจ้าของอาวุธสงครามนี้นำมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด” รอง ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า ได้ตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมด พบว่าอาวุธส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตในประเทศไทย แต่เชื่อว่ามีที่มาจากประเทศรัสเซีย และกลุ่มสหภาพโซเวียต อาวุธสงครามเหล่านี้เป็นอาวุธเก่า แต่อยู่ในสภาพที่ใหม่พร้อมใช้งาน บางชนิดเคยมีใช้ในประเทศไทย แต่ปัจจุบันไม่มีการนำอาวุธสงครามมาใช้ในประเทศไทย
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าอาวุธปืนอาก้า และ อาร์พีจี เคยถูกใช้ก่อเหตุในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อประมาณปี 2553 และปี 2557 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น บริเวณถนนอู่ทอง ทำเนียบรัฐบาล และ โรงแรมดุสิตธานี เป็นต้น รวมทั้งสิ้นกว่า 50 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบถุงปุ๋ย ที่บรรจุอาวุธสงครามล็อตนี้เพราะพบว่ามีบางถุงมีอักษรและสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่ของประเทศไทย โดยให้ตรวจสอบกับกรมศุลกากรและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ โดยบ่อน้ำที่พบอาวุธสงครามอยู่ห่างจากเขตรอยต่อชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี