หลอกซ่อม‘เฟอร์รารี่’

แล้วเชิดเงินลูกค้า

กองปราบฯตะครุบ

พบมีหมายจับอื้อ

กองปราบฯจับกุมผู้ต้องหาโกงเงินซ่อมเฟอร์รารี่ เปลี่ยนชื่อนามสกุลหลายครั้งเพื่อไม่ให้ตำรวจตามเจอ ตรวจสอบพบประวัติฉ้อโกงหลายคดี

ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.๑ บก.ป., พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ, พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์, พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง, พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.ภคพล สุชล รอง ผกก.1 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป. ประกอบด้วย ว่าที่ พ.ต.ต.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ฉัตรชัย เหมวิลัย, ร.ต.อ.สรัล ยศพลพิเนต รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.บุญเสริม สอนคำ, ด.ต.จิรภัทร ยิ่งยง, ด.ต.อดิศร ปานไม้, จ.ส.ต.โยธิน ตรีเมฆ, ส.ต.ท.ไตรภพ จันทนุปาน, ส.ต.ท.ไกรฤกษ์ พึ่งภู่, ส.ต.ท.เดชฤทธิ์ สงวนพรรค, ส.ต.ท.อำนาจ กลิ่นขจร ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.

ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายธนกฤต ทรัพย์ฅณาณณ หรือนายประพัฒน์พงษ์ ศรีวิไล อายุ 43 ปี ที่อยู่ 7 ซ.4 (ถนนชัยมงคล) ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ตามหมายจับ ศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 1160/2559 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2559

สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี พ.ศ.2559 นายประพัฒน์พงษ์ ศรีวิไล หรือ นายธนกฤติ ทรัพยย์คณาณณ หรือนายเช (ผู้ต้องหา)ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าตนมีอู่แต่งรถหรู มีพรรคพวกแต่งรถหรู และรับแต่งรถหรู จนผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้นำรถยนต์ เฟอรารี่ มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท ของผู้เสียหาย ไปทำสีพร้อมเปลี่ยนพวงมาลัย และของแต่งอื่นๆ ในราคารวมทั้งสิ้น 400,000 บาท เมื่อได้รับเงินมาแล้ว ได้มีการบ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำ ต่อมาได้ปิดโทรศัพท์หนี แล้วได้เปลี่ยนชื่อ นามสกุล และเปลี่ยนที่อยู่หลายครั้ง เพื่อไม่ให้ผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเจอ จนผ่านมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามจนพบเบาะแส และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพหลโยธิน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 18.20 น. จากนั้นได้ส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากการสืบประวัติการกระทำความผิดพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2557 เคยก่อคดี “ยักยอกทรัพย์” ที่ สน.สำเหร่ มาแล้ว และปี พ.ศ.2559 ได้มาก่อเหตุ “คดีฉ้อโกง” และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จนกระทั่งมาก่อเหตุในคดีนี้