9 มิ.ย.62 ที่วัดบางปลาหมอ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 12 องค์กร ประกอบด้วย มูลนิธิข้าวขวัญ , มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ , มูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) , มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) , มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค , มูลนิธิสุขภาพไทย , มหาวิทยาลัยรังสิต , เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก , เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ , ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) , เครือข่ายผู้ป่วย (Healthy Forum) และคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้ร่วมออกคำประกาศอิสรภาพกัญชารักษาโรค โดยมีรายละเอียดดังนี้
การเดินเพื่อผู้ป่วยได้ก้าวมาถึงจุดหมายปลายทางแล้วในวันนี้ นับตั้งแต่ได้ย่างเท้าก้าวแรกจากวัดป่าวชิรโพธิญาณ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 รวมระยะทาง 268 กิโลเมตร เป็นเวลา 20 วัน
ตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางนี้
-มีประชาชนจำนวนมากที่ได้หมุนเวียนร่วมกันเดินสู่จุดหมาย
-ประชาชน 32,049 คน ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอแก้ไขกฎหมายการใช้กระท่อมและกัญชาเพื่อการแพทย์
-ผู้ป่วยจำนวน 40,145 คน ร่วมลงชื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยการใช้กัญชาสูตรน้ำมันเดชาเพื่อรักษาโรค
-มีประชาชนระหว่างเส้นทางเดินที่บอกว่าไม่มีอะไรมากพอจะสนับสนุนและเป็นกำลังใจได้นอกเหนือจากหนูนาย่างเพื่อร่วมสมทบเป็นอาหาร หลายท่านที่โอนเงินเข้าบัญชีร่วมทำบุญผลิตยากัญชา และผู้ใจบุญบางท่านขอบริจาคมากถึงหนึ่งล้านบาทเพื่อผู้ป่วย โตยขณะนี่ยอดเงินบริจาคทุกบัญชีรวมกันแล้วมากถึง รวม 4,968,742.78 บาท ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
ตลอดระยะเวลา 20 วันนี้ เราได้ยิน ได้เรียนรู้จากปากคำของผู้ป่วยนับร้อยนับพันคนว่า การใช้กัญชาอย่างถูกต้องนั้นสามารถรักษาเยียวยารักษาโรคต่างๆได้มากมายกว่าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐประกาศเพียงไหน
แต่น่าเศร้าสลดที่ผู้ป่วยเหล่านี้หลายแสนคน และอาจมากถึงหลายล้านคน กลับไม่สามารถเข้าถึงยาจากกัญชาได้ จากกฎหมายและระเบียบล้าหลัง ตลอดจนแนวปฏิบัติของรัฐที่เอื้ออำนวยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การเปิดโอกาสบริษัทยาข้ามชาติยื่นขอสิทธิบัตรผูกขาด และอ้างเหตุนำเข้าผลิตภัณฑ์กัญชาจากต่างชาติ กีดกันหมอพื้นบ้านไม่ให้ผลิตยา และไม่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบกัญชาได้
บัดนี้ ไม่เพียงแต่ประชาชนบนเส้นทางเดินพิจิตร-นครสรรค์-ชัยนาท-สิงห์บุรี-สุพรรณบุรีเท่านั้นที่ลุกขึ้นยืนประกาศเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงยา แต่ประชาชนทั้งประเทศ จากเชียงราย-ปัตตานี และจากกาญจนบุรี-อุบลราชธานี จะลุกขึ้นยืนพร้อมกันด้วย
บนแผ่นดินนี้ เราขอประกาศอิสรภาพการใช้กัญชารักษาโรค เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ป่วยในการเข้าถึงยาและเลือกวิธีการรักษาโรค เคารพภูมิปัญญาและการส่งเสริมบทบาทของหมอยาพื้นบ้าน ต่อต้านการผูกขาดยาและเสริมสร้างการพึ่งพาตนเอง ดังต่อไปนี้
หนึ่ง ในระหว่างที่ยังไม่มีการอนุญาตให้สหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาได้ในปริมาณที่เพียงพอ ปปส.ต้องมอบวัตถุดิบกัญชาของกลางให้กับหมอพื้นบ้านที่ผลิตยาแจกจ่ายแก่ประชาชน มิใช่การเผาทำลายทิ้งไปโดยไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพและเกณฑ์ความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์ปลายทาง (end products) เพื่อให้ผู้ป่วยที่เคยใช้ยากัญชาสามารถเข้าถึงยาได้ต่อเนื่อง
สอง เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข รับรองตำรับยาน้ำมันกัญชา หรือน้ำมันกัญชาผสมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นต้น เป็นตำรับยาหมอพื้นบ้าน และตำรับยานี้ควรอยู่ในระบบบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย บุคลาสาธารณสุขสามารถผลิตยาได้ และผู้ป่วยทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงยากัญชาได้อย่างกว้างขวางและปลอดภัยในราคาไม่แพง
สาม ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและทุกพรรคการเมืองร่วมกันสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายให้กัญชง กระท่อม สาร CBD และสารอื่นจากกัญชาที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ออกจากบัญชียาเสพติดอย่างสมบูรณ์
และต้องอนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์สามารถปลูกกัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเอง เช่นเดียวกับหมอยาพื้นบ้าน บุคคลากรด้านการแพทย์/สาธารณสุข สถานพยาบาล สามารถปลูก และปรุงยากัญชาได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสม ผ่านการจดแจ้ง และใช้กลไกของชุมชน ท้องถิ่น ในการกำกับดูแลไม่ให้มีการนำวัตถุดิบกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
สี่ เร่งฟื้นฟูและพัฒนาสายพันธุ์กัญชา โดยการส่งเสริมสนับสนุน และคุ้มครองบทบาทของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สายพันธุ์กัญชาไทยกลับมามีความหลากหลายและมีคุณภาพดีที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง เพิกถอนและระงับการยื่นขอจดสิทธิบัตรที่ขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะการจดสิทธิบัตรสารตามธรรมชาติ การใช้เพื่อรักษาโรค และขาดความใหม่ เป็นต้น
เราขอประกาศว่า เครือข่ายเดินเพื่อผู้ป่วยจะเร่งเผยแพร่ความรู้ ส่งเสริมการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค โดยร่วมมือกับทุกกลุ่มทุกฝ่ายและทุกพรรคการเมืองที่มีหลักการและเป้าหมายเดียวกัน
เราจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยนับแสนนับล้านคนที่รออยู่สามารถเข้าถึงยากัญชาโดยเร็วที่สุด
หากรัฐเพิกเฉย ผู้ป่วยและประชาชนจากทุกจังหวัด จะร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี