พูดถึง “จังหวัดสงขลา” เชื่อว่า “อำเภอหาดใหญ่” น่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงด้วยความเป็นพื้นที่เศรษฐกิจแหล่งใหญ่ของภาคใต้ตอนล่างที่ในวันหยุดมักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยรวมถึงเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม หากดูประวัติของอำเภอหาดใหญ่ทำให้ทราบว่าพื้นที่แห่งนี้เจริญขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยการมาถึงของทางรถไฟสายใต้เมื่อราวร้อยปีที่แล้ว
โดยก่อนหน้านั้นศูนย์กลางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ “อำเภอเมืองสงขลา” อันมีประวัติศาสตร์ยาวนานในฐานะเมืองท่าสำคัญยุคที่การค้าทางทะเลเฟื่องฟูเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทำให้เป็นแหล่งรวมผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ-ศาสนา จนปัจจุบันยังหลงเหลือร่องรอยอารยธรรมที่ผสมผสานกันระหว่างไทยพุทธ จีนและมุสลิม เกิดเป็นอัตลักษณ์ที่เรียกว่า “สามหลักผสานเกลียวเป็นหนึ่งเดียวในบ่อยาง” โดยย่านเมืองเก่าจะตั้งอยู่ที่ “ตำบลบ่อยาง” ถึงกระนั้นที่นี่ก็เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ที่คนรุ่นหลังมองข้าม จนทำให้ขาดการดูแล
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) หรือปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดทำ “โครงการวิจัยการเสริมสร้างพลังท้องถิ่น ด้านคุณค่า มูลค่า และการสืบสานมรดกวัฒนธรรม “เมืองเก่าสงขลา” ให้เข้มแข็งสู่การเป็นเมืองมรดกเราและเมืองมรดกโลก” ร่วมกับ สถาบันอาศรมศิลป์ บนพื้นที่ “หนองจิก” ชุมชนที่ยังมีร้านค้าในตัวอาคารซึ่งยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมไว้ และคนในชุมชนก็ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์บ้านของตนได้
ผลสำเร็จของชุดโครงการวิจัยในปีแรก (2560 - 2561) นอกเหนือจากการหนุนเสริมหน่วยงานระดับจังหวัด ทำให้เกิดแผนแม่บทการบริหารจัดการโครงการปรับปรุงแหล่งโบราณสถานและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ (สงขลาสู่มรดกโลก) จนพื้นที่หนองจิก กลายเป็นพื้นที่ต้นแบบ “ถนนเรียนรู้คู่วัฒนธรรม (ชุมชนเก้าห้อง-หนองจิก-นางงาม)” แล้ว หนึ่งในสามของงานวิจัยภายใต้ชุดโครงการนี้ยังได้ทำให้เห็นรูปธรรมของการจะทำให้คนรุ่นหลังมีจิตสำนึกของความเป็นพลเมืองที่รักในความเป็นเมืองเก่าสงขลา และต้องการสืบทอดมรดกเหล่านี้ด้วย
อภิษฎา ทองสะอาด หัวหน้าโครงการวิจัย“การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้วยระบบคุณค่า เพื่อสื่อสารความเป็นพลเมือง รักษ์สงขลาอย่างสร้างสรรค์” กล่าวว่า งานวิจัยที่ผ่านมาใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อดึงทุกภาคส่วนมาทำงานวิจัยร่วมกัน เกิดเป็นภาคีเครือข่ายที่ประกอบด้วยนักวิชาการ ปราชญ์ท้องถิ่น ชุมชนเก้าห้องถนนหนองจิก-นางงาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเทศบาลนครสงขลา รวมทั้งผู้บริหารและครูจาก 10 โรงเรียนในพื้นที่สงขลา
ด้วยโจทย์ร่วมกันคือนำความรู้ คุณค่า และภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ มาบูรณาการเป็นแผนการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้ ที่สุดท้ายทำให้ได้ “หลักสูตรท้องถิ่น เยาวชนรักษ์ถิ่นสงขลา สามหลักผสมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวในบ่อยาง” และ “ชุดการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ถนนเรียนรู้คู่วัฒนธรรมชุมชนเก้าห้อง ถนนหนองจิก-นางงาม” ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันทั้ง 10 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้นำตัวหลักสูตรและชุดการเรียนรู้นี้ไปทดลองการสอนในโรงเรียนของตนเองในปีการศึกษาที่ผ่านมา และทำให้เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งในตัวเด็กและครู
“อย่างในกิจกรรมทัศนศึกษาที่จะพาเด็กๆ ไปรู้จักชุมชนนั้น ทางโรงเรียนและคุณครูก็จะมีการสร้างความเข้าใจให้เด็กก่อน เน้นการพาไปดูแบบมีความหมาย ให้เด็กได้พูดคุยกับคนในชุมชนเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพื้นที่ ทั้งหมดนี้ทำให้เด็กได้เรียนรู้และได้เชื่อมโยงตัวเองกับสถานที่และผู้คน นำไปสู่ความรู้สึกความผูกพันกับชีวิตของคนและสถานที่แห่งนี้ เห็นได้จากในกิจกรรมการนำเสนอผลงานทางวิชาการของเด็กๆ ที่เด็กได้เลือกนำสิ่งที่เขาเห็นจากไปทัศนศึกษาในพื้นที่ ไปพูดคุยกับคนในชุมชน มาเป็นหัวข้อนำเสนอ” อภิษฎา ระบุ
อภิษฎา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการวิจัยที่ทำต่อในปีนี้ นอกเหนือจากการใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้หลักสูตรท้องถิ่นเยาวชนรักษ์ถิ่นสงขลา : สามหลักผสานเกลียวเป็นหนึ่งเดียวในบ่อยาง ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นแล้ว ยังมองถึง“การเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้ตามอัธยาศัย”โดยเฉพาะกับคนในชุมชน เช่น การเรียนรู้เชิงวิชาชีพ ด้วยการทำงานกับภาคีเครือข่ายผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ กิจกรรมการสร้างบอร์ดเกม การทำคลิป แผนที่คนดี ผลิตภัณฑ์เมืองเก่า เป็นต้น
ขณะที่ กิตติ สัจจวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายบูรณาการวิจัยและความร่วมมือเพื่อพัฒนาพื้นที่ สกสว. กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากการสร้างแรงบันดาลใจให้โรงเรียนและครูด้วยการสร้างหลักสูตรแล้ว การผลักดันเชิงนโยบายให้หน่วยงานรับผิดชอบมีการผนวกหลักสูตรนี้เข้าไปอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน เป็นอีกสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้น พร้อมไปกับการทำให้เด็กที่จะเติบโตมาทดแทนคนรุ่นปัจจุบันได้เห็นว่าคุณค่าเหล่านี้สามารถแปลงเป็นทุนในการดำเนินชีวิตของตนเองได้ ให้คนรุ่นใหม่สามารถมีอาชีพใหม่ๆ จากคุณค่าของวัฒนธรรมที่มี
ทั้งหมดนี้จะทำให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่แห่งนี้ เติบโตเป็นพลเมืองที่มีความผูกพัน และต้องการรักษา “รากเหง้า” เหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป!!!
ฝ่ายบูรณาการวิจัย
และความร่วมมือเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่
สำนักงานคณะกรรมการวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี